ฤดูหนาว 2567 ทำไมร้อนจัง วันนี้ (11 พ.ย.67) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ประธานกรรมการบริหาร Futuretales LAB, MQDC และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบคำถามแฟนเพจที่ถามกันเข้ามามากว่า ตกลงจะมีหนาวไหม เพราะตั้งแต่ประกาศเข้าฤดูหนาว เหตุใดอากาศร้อนมาก อุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส ร้อนจริง ๆ ทั่วทุกภาคยกเว้นภาคเหนือตอนบน
จากฉากทัศน์คาดการณ์อุณหภูมิสูงสุด มากกว่า 30 องศาเซลเซียส (เฉดสีแดง) จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ทั่วทุกภาคยกเว้นภาคเหนือตอนบน ดังนั้นเวลากลางวันอากาศร้อนจริง ที่ กทม. อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 32-33 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส กรุงเทพฯ จะมีเพียง 2 ฤดู (ฤดูร้อนกับฤดูฝน ไม่มีฤดูหนาวแล้ว ?)
รศ.ดร.เสรี ระบุด้วยว่า เมื่อดูอุณหภูมิเฉลี่ยไปจนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า (2568) อุณหภูมิก็จะยังคงสูงกว่าปกติทางฝั่งตะวันตก อุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งทะเลอันดามันก็จะสูงกว่าฝั่งทะเลจีนใต้ แม่ค้าพ่อค้าเสื้อหนาวขายยากหน่อย ต้องไปขายพื้นที่ตอนบน อิทธิพลของปรกกฎการณ์ La Nina ปลายปี 2567 ช่วยได้เพียงเล็กน้อย และอาจจะสลับขั้วตอนปลายปี 2568 ต้องติดตามข้อมูลต่อไป
สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเรื่องของผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนก่อนออกดอกผล ต้องเลี้ยงลำต้นให้แข็งแรงช่วงนี้ อย่าให้ขาดน้ำเป็นอันขาด แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าอุณหภูมิจะสูงเหมือนต้นปี 2567 ที่ผลผลิตเสียหายไปกว่า 30% ดังนั้นผลผลิตปี 2568 น่าจะดีกว่าปี 2567 น่ะครับ แต่ก็ต้องดูเรื่องของความชื้น และฝนด้วยเพราะคาดการณ์ว่าฝนจะมาเร็วกว่าปกติ ซึ่งในช่วงนั้น รศ.ดร.เสรี จะไปให้ข้อมูลกับชาวสวนอย่างละเอียด เพื่อจะวางแผนการผลิตให้รอบคอบ
สำหรับข้าว ปีนี้ต่อเนื่องปีหน้าข้าวนาปรังจะมีพื้นที่ปลูกมากกว่าปกติ เนื่องจากมีน้ำต้นทุนดีทั่วประเทศ (ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบางจังหวัด เช่น นครราชสีมา ซึ่งกรมชลประทานออกประกาศขอความร่วมมืองดทำนาปรังไปแล้ว ไม่ให้ทำนาปรัง ส่วนพื้นที่ภาคเหนือ มีนาข้าวเสียหายหนักจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ต้องถอนทุนคืน แต่ต้องดูว่าอยู่ในพื้นที่ชลประทานหรือเปล่า ส่วนพื้นที่ภาคกลาง คาดว่าจะลงข้าวกันเต็มที่ แต่ต้องดูเรื่องราคาประกอบด้วย ทราบมาว่าอินเดียปีหน้าก็จะมีผลผลิตออกมาดีเช่นกัน ปริมาณการส่งออกคาดว่าจะมากกว่า 20 ล้านตัน เห็นใจชาวนามาก เวลาผลผลิตดี ราคาข้าวไม่ค่อยดี ทำมากได้น้อย
