รมว.ยธ. เผยดูแลความปลอดภัย “ทนายตั้ม” หลังโดนจองกฐิน ผุดไอเดียเรือนจำเอกชน ขังกลุ่มเยาวชนต้องโทษแต่ต้องไปเรียนหนังสือ คนทำงานเลี้ยงครอบครัว ให้ติดคุกวันเสาร์-อาทิตย์ แก้ปัญหาความแออัดโดยไม่ขัด ป.วิอาญา
วันนี้ (12 พ.ย.67) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความปลอดภัยภายในเรือนจำ หลังมีนักโทษถูกแทงเสียชีวิต ว่า ตอนนี้มีแนวทางในการดูแลอยู่แล้ว วันนี้ผู้คุมหรือพัศดีทำงานหนัก เรื่องความปลอดภัยในเรือนจำมีความละเอียดอ่อน เมื่อทราบว่ามีความขัดแย้งในหมู่ผู้ต้องขัง ก็ต้องดูและไม่ให้มีความขัดแย้งกัน ซึ่งจะมีหลักวิชาการอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าผู้คุมมีน้อย ต้องหาอาสาสมัครมาช่วยคุม คล้ายอาสาสมัครคุมประพฤติ เช่น ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ทหาร เป็นต้น
เมื่อถามถึงกรณีของทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งมีข่าวว่าถูกจองกฐินในเรือนจำ จะต้องดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เท่าที่คุยรักษาการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็ดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว และรายงานผู้บังคับบัญชา เพราะเรื่องต่าง ๆ แม้เราไม่เข้าไปยุ่ง แต่หากเกิดปัญหาขึ้นก็จะทำให้เสียภาพลักษณ์
ส่วนการแก้ไขปัญหาลดความแออัดภายในเรือนจำ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถือเป็นปัญหาใหญ่ คณะกรรมการราชทัณฑ์ได้มีการจำแนกผู้ต้องขังที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งต้องแยกออกจากนักโทษที่คดีสิ้นสุดแล้ว แต่ทำได้ยากเพราะสถานที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ในอนาคตจะมีการยกร่างกฎหมาย อาจมีเรือนจำของเอกชน หรือบางคนขังเฉพาะวันเสาร์วันอาทิตย์ เช่น เยาวชนที่จะต้องเรียนหนังสือ คนที่จะต้องทำงานเลี้ยงดูลูก ประเด็นสำคัญคือต้องไม่ขัดกับกฎหมาย ประมวลวิธิพิจารณาความอาญา รวมถึงการบริหารโทษ ด้วยการพักการลงโทษ ถือว่ายังเป็นการรับโทษ แต่เราต้องบริหารโทษให้เกิดประโยชน์ ไม่ให้หลบหนี ไม่ให้ไปก่อเหตุร้าย คนเหล่านี้ถือว่า เป็นพลเมืองไทยที่ต้องออกมาร่วมกันพัฒนาประเทศ เมื่อออกจากคุกต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ทำผิดแล้วต้องกลับเข้าคุกอีก