อ้างถูก "ตำรวจ" ทำร้าย แถมจงใจดึงคดี

View icon 123
วันที่ 14 พ.ย. 2567 | 16.32 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อดีตรองนายก อบต. ร้องสื่อ อ้างถูกอดีตเพื่อนรักพาตำรวจสายสืบมาทำร้ายร่างกายในงานลอยกระทงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนวันลอยกระทงจะมาถึงอีกรอบ คดีก็ยังเงียบ

อ้างถูก "ตำรวจ" ทำร้าย แถมจงใจดึงคดี
นี่เป็นคลิปเหตุการณ์ชุลมุนภายในงานลอยกระทงประจำปี ที่วัดเทพนิมิตร จังหวัดนนทบุรี โดยคลิปนี้ นายฤทธิรงค์ มีสกุล หรือ นายตาล อายุ 44 ปี อดีตรองนายก อบต.บางใหญ่ ซึ่งเป็นชายเสื้อฟ้าที่ถูกทำร้าย นำมาโพสต์ขอความเป็นธรรม ระบุว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ถูกกลุ่มตำรวจชุดสืบสวนในพื้นที่พาพวกเข้ามาดักทำร้ายในงานลอยกระทง จนเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่เมื่อไปแจ้งความกลับไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังพยายามร้องเรียนและขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน ในที่สุดได้รับพนักงานสอบสวนที่ทำงานตรงไปตรงมา แต่เมื่อเริ่มสอบสวน คดีถูกดึงให้ช้าลง จนกระทั่งพนักงานสอบสวนถูกย้ายไปที่อื่น ทำให้เรื่องราวคืบหน้าไปได้ยาก จึงแชร์เรื่องราวนี้เพื่อเป็นการขอความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับ นายตาล อายุ 44 ปี ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะนั้นตนเป็นรองนายก อบต.บางใหญ่ วันเกิดเหตุตนออกตรวจอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านในงานลอยกระทงประจำปี จนช่วง 23.00 น. ตนได้เดินทางออกจากวัด แล้วขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปวัดต้นเชือก ซึ่งก็ได้จัดงานประจำปีประเพณีลอยกระทงเช่นเดียวกัน

อดีตรองนายก อบต. เล่านาทีถูกทำร้าย จ.นนทบุรี
ผ่านไปประมาณ 10 นาที  ตนได้เจอกับ "นายแทน" อดีตเพื่อนรักที่เคยคบกันมา 30 ปี แต่ต่อมามีปัญหา เดินมาพร้อมชายเสื้อดำ 3 คน ซึ่งเป็นตำรวจชุดสืบ สภ.บางแม่นาง ก็ทักทายกันปกติ จากนั้นตนเดินไปเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่ากลุ่มของตำรวจดังกล่าวมาดักรอหน้าห้องน้ำ ถามตนทำนองหาเรื่องว่า "แทน มาอยู่กับตำรวจ มีปัญหาอะไรเหรอ" ด้วยความโมโห ตนก็ตอบไปว่า "ไม่ได้มีปัญหาอะไร มึงแจ๋วเหรอ" จากนั้นมีปากเสียงกันนิดหน่อย ตนเห็นท่าไม่ดี เกรงจะเกิดอันตราย จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ จนเป็นเป้าสายตาของประชาชน จากนั้นรุ่นน้องของตนก็ได้เดินกันเข้ามา แต่ปรากฏว่า นายแทน ได้เดินมาผลักแล้วต่อยปากตน ก่อนชุลมุนตามคลิป

จากนั้นก็มีการฉุดกระชากจนทำให้สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ของตนขาด รวมถึงพระหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เลี่ยมทองรุ่นยันต์ใหญ่ ตกหล่นอยู่ที่เกิดเหตุ และยังมีท้าวเวสสุวรรณอีก 1 องค์ ที่กรอบทองหลุด ซึ่งหลังเกิดเหตุนั้นตนหาหลวงปู่เอี่ยมไม่เจอ ปรากฏว่าหลังจากดูคลิปที่ชาวบ้านถ่าย พบว่า นายแทน เป็นคนเก็บพระหลวงปู่เอี่ยมไว้ที่มือ แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นคนเก็บไป จนกระทั่งนำคลิปไปยืนยัน นายแทน จึงยอมคืนพระให้ จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป แต่ต่อมากลุ่มตำรวจที่เป็นพวกของ นายแทน มีการชักปืนขู่ตน ซึ่งหลังก่อเหตุตนได้ดำเนินคดีกับ นายแทน รวมถึงตำรวจทั้ง 3 นาย ไว้ การที่ตนมาร้องเรียนในวันนี้เพราะว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านคดี แม้จะไปติดตามคดีหลายครั้ง มีการทำหนังสือติดตามความคืบหน้าคดีไปที่นกยก อบต.บางใหญ่ ซึ่งก็ได้มีการยื่นให้กับทางด้าน พ.ต.อ. ธรรศกร ก้อนทอง ผกก.สภ.บางแม่นาง ซึ่งเป็นผู้กำกับคนปัจจุบัน แต่เรื่องก็เงียบ ทั้งนี้ชาวบ้านหลายคนรวมถึงสื่อได้เคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับชุดสืบสวน สภ.บางแม่นาง กลุ่มนี้หลายครั้ง ชอบมีพฤติกรรมข่มขู่ กร่างกับชาวบ้านอยู่ตลอด ตนมองว่าหากคดีนี้กลับกัน ฝ่ายตนเป็นผู้กระทำความผิด คาดว่าใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน คดีคงคืบหน้าไปไกลแล้ว

ตร.แจงทำคดีครบถ้วนแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ที่ สภ.บางแม่นาง โดย ร.ต.อ.กิตติธัช เพชรคง รองสารวัตรสอบสวน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดี ชี้แจงว่า ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ทั้งการสอบปากคำผู้เสียหาย พยานจุดเกิดเหตุ และผู้ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคลิปหลักฐานที่ผู้เสียหายส่งมานั้น ทางอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และชี้ว่าคดีนี้มีรายละเอียดมากกว่าที่จะแถลงต่อสื่อ แต่ยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดได้พิจารณาตามหลักฐานอย่างเป็นธรรม ไม่มีการเอนเอียงหรือเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายใด

ร.ต.อ.กิตติธัช กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว ส่วนการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอัยการ ซึ่งตำรวจไม่สามารถก้าวล่วงได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง