เช้านี้ที่หมอชิต - จากคดีดิไอคอนกรุ๊ป ตอนนี้ก็กลับกลายเป็นภาคของนักร้องเรียน ตบทรัพย์ที่ร้อนแรงเพิ่มรายวัน เมื่อมีคลิปฉาวค่อย ๆ โผล่ ที่ล่าสุดนักร้องเรียนกล้ามากถึงขั้น อ้าง "รัฐมนตรีน้ำ" ซึ่งกำกับ สคบ. อ้างตัว รัฐมนตรีไม่พอ ยังอ้างถึงไปพ่อด้วย เรื่องนี้แน่นอนไม่มีใครทน เดี๋ยวไล่เรียงไปทีประเด็น ก่อนอื่นไปฟังเสียงการเรียกตบทรัพย์บอสพอล แห่งดิไอคอนกันก่อน
นักร้องสาวอ้าง รัฐมนตรีน้ำ ให้คุม สคบ.
ก็เป็นเสียงของผู้หญิงในคลิปอ้างถึง "รัฐมนตรีน้ำ" แล้วก็ยังพ่วงลามไปถึงคุณพ่อของรัฐมนตรีน้ำด้วย แต่จะ "น้ำ" ไหน งานนี้ชาวโซเชียลก็พุ่งเป้าไปที่ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักกับนักร้องสาวที่แอบอ้าง ไม่เคยคุย ไม่เคยใช้งาน ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงานนั้น เป็นข้อมูลเท็จ 100% ซึ่งก็ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบและเตรียมดำเนินคดีให้ถึงที่สุดแล้ว
เปิดหลักฐานผู้เสียหายถูกหลอกเงินเกือบ 60 ล้านบาท
ส่วนประเด็นที่ อี้ แทนคุณ เปิดไว้ว่า มีผู้เสียหายคนหนึ่งจาก จังหวัดตรัง ติดต่อมาและเล่าให้ฟังว่า มีคดีลักษณะคล้ายกับคดี Forex โดยมีตัวละครสำคัญคือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ชักชวนผู้เสียหายไปลงทุนที่ประเทศดูไบ ก่อนเสียหายไปกว่า 60 ล้านบาท
ซึ่งเรื่องนี้ เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) เพจดาวแปดแฉก ก็โพสต์ข้อความระบุว่า "ผู้เสียหายชาวจังหวัดตรัง จ่ายเงินจำนวนมาก โดนหลอกจากใคร ลงทุนอะไร นักตบเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร??"
พร้อมโพสต์ภาพกระดาษที่บันทึกรายจ่าย ระบุหัวข้อว่า รายการเงิน 60 ล้าน จากนั้นก็เป็นบันทึกการโอนแต่ละครั้ง ก่อนรวมยอดทั้งหมดที่โอนไปเป็นเงิน 56.5 ล้านบาท ยังคงเหลือที่ต้องโอน 3.5 ล้านบาท ซึ่งชื่อที่เบลอ ๆ ไว้ จะเป็นใครหรือเกี่ยวข้องยังไง งานนี้ก็ต้องมาติดตามกัน
"อี้ แทนคุณ" แฉ "ฟิล์ม" ยก 2
ซึ่งประเด็นนี้ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ก็ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ฟิล์ม และพี่ชาย รวมไปถึงพรรคพวกของเขา ได้ไปเชื้อเชิญคนให้มาลงทุนคล้ายกับกรณี Forex โดยให้ผู้เสียหายจ่ายเป็นเงินสดจำนวน 20 ล้านบาท
ส่วนที่เหลือก็ให้ผู้เสียหายไประดมทุนมา ปรากฏว่า ผู้เสียหายระบุว่าการเทรดนั้นไม่มีอยู่จริง แต่ทางฝั่งฟิล์มระบุว่า เทรดไปแล้ว แต่ผิดพลาดและพอตรวจสอบไปที่ศิลปินท่านนี้ว่า "แล้วเงินอยู่ไหน" เขาก็บอกว่า "ใช้หมดแล้วจำนวนหลายล้านบาท"
อี้ แทนคุณ ยังบอกอีกว่า นี่ไม่ใช่รายเดียว ยังมีบริษัทพลังงานบริษัทหนึ่งที่จังหวัดราชบุรี ติดต่อมาว่าโดนคล้าย ๆ กัน ซึ่งไม่ได้เป็นการตบทรัพย์ แต่เป็นการชวนมาลงทุน ตอนนี้พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการ หากตำรวจส่งฟ้องอัยการ ตนคงพูดได้มากขึ้น
เพจฯ ดัง สงสัย "ฟิล์ม" รอดคดี FOREX-3D
ยังไม่หมดเท่านั้น เพจบิ๊กเกรียน ยังโพสต์เกี่ยวกับคดีที่เคยเกี่ยวโยงกับ ฟิล์ม ที่คงค้างคา และสร้างความสงสัยให้กับประชาชน เผยว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ มีชื่อเกี่ยวโยง Forex-3D เส้นเงินผู้เสียหายเข้าบัญชี 16.73 ล้านบาท ไม่รวมจากบัญชีของนายอภิรักษ์ อีก 6 ล้าน อ้างว่าเป็นค่าทำเกม
"หนุ่ม กรรชัย" ให้ปากคำ ปมนักตบทรัพย์
มาดูอีกคนที่จองกฐิน 2 นักร้องเรียน อย่าง "หนุ่ม กรรชัย" พิธีกรข่าวชื่อดัง เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองปราบฯ โดยมี "บิ๊กเต่า" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย
ก่อนเผยว่า มอบหมายทนายความแจ้งความแล้ว มีการนำหลักฐานและมาให้ปากคำเกี่ยวกับบทสนทนาในคลิปเสียงที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ อ้างกับ บอสปัน เรื่องการเรียกเงิน 20 ล้าน แลกกับการออกรายการ
ซึ่งงานนี้ก็เอาผิดฐานหมิ่นประมาทกับทั้งนักร้องเรียนหญิง และโดยเฉพาะกับ ฟิล์ม ที่มีการประกาศกร้าวเลิกคบ ฟิล์ม แล้ว เพราะเคยให้โอกาสไปถึง 3 ครั้ง ในการพูดความจริง
"บิ๊กเต่า" ชี้ คลิปเสียงล่าสุด มีประโยชน์ต่อรูปคดี
ขณะที่ "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงล่าสุดว่า แผนประทุษกรรมจะคล้าย ๆ กับที่เกิดขึ้นในคดีก่อนหน้านี้ หลัก ๆ เป็นการใช้ข้อมูลเท็จเพื่อปกปิดข้อมูล เพื่อหวังเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งคลิปเสียงล่าสุดมีการเปิดเผยชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
ทนายความ "บอสพอล" แจงปมร้อนกับพนักงานสอบสวน
ด้าน ทนายวิฑูรย์ ทนายความของบอสพอล ไปพบพนักงานสอบสวนใน 3 ประเด็น ประเด็นแรก เป็นเรื่องไทม์ไลน์คดีกรรโชกเงิน 2 ก้อน 300,000 และ 450,000 บาท ประเด็นที่ 2 คือ คลิปเสียงที่พาดพิงถึง "รัฐมนตรีน้ำ" ซึ่งยอมรับว่าตกใจ และเชื่อว่าจะเป็นจิกซอว์ชิ้นสำคัญ ที่ชี้ให้เห็นเหตุผลว่าทำไม บอสพอล ถึงยอมจ่ายเงิน ส่วนเรื่องสุดท้าย เป็นกรณีการจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายบางราย ที่มีเหตุให้สงสัยว่า อาจไม่ใช่ผู้เสียหายตัวจริง
ทนายวิฑูรย์ ยังพูดถึงกรณีของนักการเมือง "ส." ว่าเหตุที่ บอสพอล ไม่ต้องการดำเนินคดี ไม่ใช่เปลี่ยนใจ แต่เพราะเป็นเพื่อนกันจริง ๆ คลิปเสียงที่คุยกัน เป็นเหตุการณ์เมื่อปี 2566 ตอนนั้น บอสพอล เห็นว่าตัวเองมีสมาชิกใน ดิไอคอนกรุ๊ป เยอะ เลยคิดจะลงเล่นการเมือง จึงหารือกับเพื่อน และก็ย้ำว่าไม่เคยมีการจ่ายเงินให้แก่กันจริง ๆ ส่วนเหตุที่ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้แต่แรก ยอมรับเป็นความผิดพลาดของตนเอง