เช้านี้ที่หมอชิต - จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญชายอายุ 38 ปี ฆ่าโหดกระหน่ำแทงหญิงสาว 17 แผล ริมถนน หลังขี่รถตามประกบ โดยหลบหนี 12 วัน สุดท้ายยอมมอบตัวแล้ว ขณะที่ญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตเข้าปิดล้อมโรงพัก ขอเจอตัวผู้ต้องหา แต่ตำรวจรีบพาเข้าห้องขังโดยเร็ว
เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่ครอบครัวและญาติของ นางสาวจันทร์ทิพย์ อายุ 28 ปี ผู้เสียชีวิต เข้าปิดล้อมโรงพักตลาดใหญ่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เนื่องจากไม่พอใจตำรวจที่รีบพาตัว นายเอกรัตน์ อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุ เข้าห้องขังอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่พวกเขามารอเจอตัวอยู่นานตั้งแต่ช่วงเย็น เพราะอยากถามถึงสาเหตุที่ทำเพราะอะไร แต่ตำรวจกลับปิดกั้นไม่ให้เจอกลัวว่า จะถูกรุมประชาทัณฑ์โดยพาตัวผู้ต้องหาเข้าทางด้านข้างโรงพัก แล้วพาเข้าห้องขังในทันที ป้องกันการปะทะกัน
หากย้อนเหตุการณ์ไปในวันเกิดเหตุคือ 3 พฤศจิกายน นางสาวจันทร์ทิพย์ อายุ 28 ปี ถูกคนร้ายดักแทง 17 แผล เสียชีวิต ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์น้องสาวกลับจากตลาด และถูก นายเอกรัตน์ ขี่รถตามมาประกบและปาดหน้าให้จอด และเข้ามากระหน่ำแทงแบบไม่ยั้ง เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต บริเวณซอยบ้านทุ่งหัวนา ตำบลโคกเคียน อำเภตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และต่อมาตำรวจได้ออกหมายจับ นายเอกรัตน์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเจ้าตัวได้หลบหนีการจับกุมนานถึง 12 วัน
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงาและจังหวัดสงขลา ได้ปิดล้อมจับกุม นายเอกรัตน์ ขณะกบดานที่ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา แต่เมื่อเห็นตำรวจก็ได้วิ่งหนีเข้าไปในป่า และถูกกดดันอย่างหนัก จนกระทั่งยอมมอบตัวกับตำรวจ สภ.ควนมีด อำเภอจะนะ ในเวลาต่อมาและไปค้นบ้านพบ เสื้อแขนยาวสีครีม และกางเกงยีนขาสั้นที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ
ตำรวจพังงา ได้นำตัวกลับมาสอบสวนขยายผลที่ สภ.ตลาดใหญ่ จังหวัดพังงา ซึ่งยอมรับว่า ฆ่า นางสาวจันทร์ทิพย์ จริง เพราะความหึงหวง เนื่องจากหลงรักคนตายมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม กระทั่งคนตายหนีไปแต่งงานกับชายคนอื่น และมีลูกด้วยกัน 2 คน แล้วเลิกกับสามี ไปมีผู้ชายอีกคนที่นครศรีธรรมราช วันเกิดเหตุคนตายกลับมาเยี่ยมบ้านที่พังงา จึงได้พบและสานความสัมพันธ์กัน แต่คนตายขอกลับไปหาชายคนรักที่นครศรีธธรรมราช จึงทำให้ นายเอกรัตน์ ไม่พอใจ และวางแผนฆ่าดังกล่าว