ลุงขับตุ๊กตุ๊ก วัย 50 ปี โดนวัยรุ่นยกพวกรุมเจ็บหนัก อ้างขับรถเฉี่ยว หนำซ้ำแม่ผู้ก่อเหตุบุกไปข่มขู่ถึงรพ. ให้ยอมความ โวรู้จักที่ตำรวจทำคดี ถ้าไม่ยอม ก็ไม่จบ
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6” ได้โพสต์คลิปขณะกลุ่มวัยรุ่น กำลังก่อเหตุรุมกระทืบชายคนหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า ”ฝากเรื่องนี้หน่อยครับคิม ช่วยส่งต่อสื่อข่าวให้ความยุติธรรมด้วยครับ น้องชายคนขับรถตุ๊กตุ๊กตลาดประชานิเวศน์ 3 ร้องเรียนพี่ชาย ถูกชายคนหนึ่งขับรถยนต์ อ้างว่าพี่ชายขับตุ๊กตุ๊กไปเฉี่ยวชนแล้วหนี ซึ่งพี่ชายก็บอกว่าไม่รู้ตัว แต่ถ้าเฉี่ยวชนจริงก็จะรับผิดชอบ แต่ฝ่ายคู่กรณีกลับจะหาเรื่อง จนเข้าไปกระโดดถีบพี่ชายในขณะนั่งอยู่บนตุ๊กตุ๊ก พี่ชายจึงหยิบมีดปอกผลไม้ที่อยู่บนรถเอามาป้องกันตัวเอง แต่ไม่ได้ไล่แทงใคร แค่บอกอย่าเข้ามา
หลังจากนั้นคู่กรณีบอกว่าเดี๋ยวจะกลับมา ก่อนที่จะตามพวกมารุมกระทืบตามในคลิป หลังจากนั้นพี่ชายไปแจ้งความที่ สภ. รัตนาธิเบศร์ และพี่ชายไปรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ก่อนที่ญาติของคนก่อเหตุ จะไปหาที่ห้องผู้ป่วย โดยเอาข้อมูลมาจากร้อยเวร และบอกให้พี่ชายถอนแจ้งความ แล้วจะเยียวยาให้ แต่ฝั่งตนเองอยากให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาครับ“
ต่อมา เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 67 ทีมข่าวลงพื้นที่ย่านบางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พบนายบอย อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของนายโชค อายุ 50 ปี (ผู้บาดเจ็บ) อาชีพขับรถตุ๊กตุ๊ก โดยนายบอย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองทราบเรื่องเมื่อวานนี้ตอนเย็น เนื่องจากพี่ชายไม่ยอมบอก กลัวว่าจะมีปัญหาบานปลาย พี่ชายของตนได้รับบาดเจ็บตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา และได้ขับรถตุ๊กตุ๊กไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวเอง ตนเพิ่งได้เข้าไปเยี่ยมพี่ชายเมื่อวานนี้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี พี่ชายมีรอยเย็บที่ศีรษะเป็นทางยาวหลายสิบเข็ม เนื้อตัวฟกช้ำ เป็นรอยแผลถลอกที่ใบหน้า ผ่าตัดโหนกแก้มด้านซ้าย กรามขยับไม่ได้ ตอนแรกพูดไม่ได้เลย ล่าสุดเริ่มคุยได้นิดหน่อย
โดยพี่ชายเล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา พี่ชายกำลังขับรถตุ๊กตุ๊ก เข้าไปยังวินที่หน้าตลาดประชานิเวศน์ 3 มีวัยรุ่นชาย ทราบชื่อภายหลัง นายเบนซ์ (เป็นลูกของอดีตทหารที่เกษียณราชการแล้ว) ขับขี่ตามมา แล้วบอกว่ารถตุ๊กตุ๊กของพี่ชายไปเฉี่ยวชนรถเขา พี่ชายจึงบอกให้นำหลักฐานมา แต่นายเบนซ์ไม่ยอม จนมีปากเสียงกัน จนกระทั่งนายเบนซ์ ถีบพี่ชายล่วงจากรถตุ๊กตุ๊ก พี่ชายจึงนำมีดออกมาขู่เพื่อป้องกันตัว
นายบอย เล่าต่ออีกว่า หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 1 ชม. นายเบนซ์ พร้อมพวกรวม 9 คน มากระทืบพี่ชายตามคลิป มีอาวุธทั้งมีด มีทั้งปืนกล็อก และนายเบนซ์ ได้ใช้สากกะเบือฟาดที่ศีรษะพี่ชายจนแตก แย่กว่านั้นคือหลังเกิดเหตุ แม่ของนายเบนซ์ได้เข้าไปเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล พร้อมกับยื่นข้อเสนอจะจ่ายเงินให้ แต่ให้ยอมความและยังบอกอีกว่ารู้จักกับร้อยเวรในคดีนี้ เพราะเป็นพรรคพวกกัน แล้วบอกอีกว่าถ้าไม่ยอมถอนแจ้งความ ก็จะไม่จบ
พร้อมกันนี้ นายบอย ได้แสดงหลักฐานตามที่เล่าให้ทีมข่าวฟัง ซึ่งก็เป็นไปตามที่นายบอยเล่าจริง แต่ทีมข่าวไม่สามารถนำมาออกอากาศได้ เนื่องจากนายบอยกลัวว่า ครอบครัวจะได้รับอันตราย
นายบอย เล่าต่ออีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะน้องชายของผู้บาดเจ็บ อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับพี่ชาย ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายพี่ชายให้ถึงที่สุด ยืนยันไม่มีการยอมความใด ๆ ทั้งนั้น และขอให้มีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ที่มีการกล่าวอ้างว่าจะให้ยอมความด้วยว่าจริงหรือไม่ ที่สำคัญสิ่งที่ตนสงสัยมากที่สุดคือแม่ของนายเบนซ์ รู้ได้อย่างไรว่า พี่ชายรักษาตัวอยู่ที่ไหน รู้ถึงขนาดห้องที่พี่ชายตนนอนพักอยู่ ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแน่นอน
ต่อมา ทีมข่าวได้สอบถามนายต๋อง อายุ 50 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินว่ามีรถเฉี่ยวชนกัน มีปากเสียงและชกต่อยกันก่อนตัวต่อตัวระหว่างคนขับรถตุ๊กตุ๊ก และวัยรุ่นชาย 1 คน ฝ่ายคนขับรถตุ๊กตุ๊กมีมีดยาว เขาเอาออกมาป้องกันตัวเพราะอีกฝั่งตัวใหญ่กว่า หลังจากนั้นวัยรุ่นชายได้ขับขี่รถวนมาดู ตนจึงเข้าไปช่วยเคลียร์อยากให้ใจเย็น ๆ ไม่อยากให้ทะเลาะกัน ขอโทษกันก่อน เรื่องค่าเสียหายค่อยคุยทีหลัง
พอรอบ 3 วัยรุ่นชายมาพร้อมพรรคพวกหลายคน คาดว่าประมาณ 10 กว่าคน แต่รอบนี้ทางฝ่ายคนขับรถตุ๊กตุ๊กไปท้ากลุ่มวัยรุ่น ก่อนจะเปิดศึกรุมตามในคลิป และทางกลุ่มวัยรุ่นก็มีมีดมาด้วย หลังจากนั้นสภาพของคนขับรถตุ๊กตุ๊กหัวแตก เห็นว่าต้องผ่าศีรษะ เรื่องของเรื่องทั้ง 2 ฝ่ายมีอารมณ์ แทนที่จะคุยกันดี ๆ ซึ่งฝั่งรถตุ๊กตุ๊กได้ชัดมีดมาก่อน ทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น ตนพยายามเข้าไปห้ามแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล คนขับรถตุ๊กตุ๊กได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่ แต่ยังมีสติ ซึ่งตนรู้จักกับคนขับรถตุ๊กตุ๊ก เป็นคนนิสัยดี อยู่กับครอบครัว จากเหตุการณ์นี้ ทางฝั่งคนขับรถตุ๊กตุ๊กใจร้อน ไม่ฟังใคร จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ถ้าต่างฝ่ายต่างขอโทษก็จบกันแล้ว เพราะทั้ง 2 ฝ่าย อยู่บ้านในซอยเดียวกัน