สาวกู้เงินในเฟซบุ๊กก่อนตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง

สาวกู้เงินในเฟซบุ๊กก่อนตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง

View icon 127
วันที่ 15 พ.ย. 2567 | 13.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตามรวบบัญชีม้า ผู้ต้องหาอ้าง ไม่เคยให้คนอื่นยืมบัญชี แต่เคยขอกู้เงินในเพจเฟซบุ๊ก ไม่คาดคิดจะถูกนำข้อมูลไปใช้เปิดบัญชี

วันที่ 15 พ.ย. พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม  ร่วมกับตำรวจ สน.เพชรเกษม ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ยุทธารี อายุ 44 ปี  ผู้ต้องหาคดี  “ร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี
   
สืบเนื่องจาก นางเจน (นามสมมติ) อายุ 65 ปี เห็นโฆษณาทางเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณะชื่อ “สินเชื่อกรุงไทย ใจป้ำ” และได้ติดต่อแอพพลิเคชันไลน์ ชื่อบัญชี “ฝ่ายบริการ KTB” เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อกู้ยืมเงิน ทางแอพฯแจ้งให้นางเจน กรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านทาง LINK: https://bit. ly/Krungthai-Online  สแกนบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสแกนใบหน้า สแกนสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีทั้งหมด รวมไปถึง สแกนลายเซ็นที่เขียนด้วยลายมือ ลงไปในระบบ
   
จากนั้นเจ้าหน้าที่ในระบบแจ้งว่า ให้รอ1-2 วัน เพื่อให้ระบบอนุมัติผลการกู้ยืมเงิน ลงทะเบียนยื่นกู้เสร็จสมบูรณ์ ให้นางเจนติดต่อไปยังบัญชีไลน์ ชื่อ“ฝ่ายการเงิน” ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ เมื่อผลออกมา เลขบัตร หรือ เลขบัญชีไม่ถูกต้อง จะต้องโอนเงินจำนวน 238,816 บาท เพื่อปลดบล็อกระบบในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและยกเลิกอายัดวงเงิน นางเจนแจ้งว่า มีเงินเพียง 20,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้โอนเงินไปจำนวน 20,000 บาท นางเจนจึงได้โอนเงินไปก่อนเพื่อยืนยันว่าจะยังคงประสงค์กู้ยืมเงินและรับเงิน แล้วหามาเพิ่มให้ได้ตามจำนวนข้างต้น ซึ่งนางเจนไม่สามารถหาเงินตามจำนวนดังกล่าวได้ และสังเกตเห็นความผิดปกติของเจ้าหน้าที่ และระบบที่ไม่สามารถแก้ไขได้ รวมไปถึงให้โอนเงินเป็นจำนวนมากไปก่อน คิดว่าโดนหลอก จึงแจ้งความไว้ที่ สน.เพชรเกษม
  
สอบสวน น.ส.ยุทธารี ให้การอ้างว่า ไม่เคยเปิดบัญชีให้ใคร เพียงแต่เคยจะขอกู้เงินในเพจเฟซบุ๊ก ต้องมีการสแกนใบหน้า บัตรประชาชน แต่สุดท้ายกู้ไม่ผ่าน แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมาถูกจับดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบเคยมีคดีฉ้อโกง พื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม และมีผู้เสียหายอีก 9คน ที่อายัดบัญชีชื่อน.ส.ยุทธารี มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ความเสียหายหลายพื้นที่ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง