วันนี้ (17 พ.ย. 67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ข่าวดี กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของประเทศญี่ปุ่น ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) “สับปะรดห้วยมุ่น” ซึ่งเป็นผลไม้ของประเทศไทยรายแรกที่ได้รับ การขึ้นทะเบียน GI ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นสินค้ารายการที่ 3 ได้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ต่อจาก กาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง
“สับปะรดห้วยมุ่น” มีเอกลักษณจุดเด่นในเรื่องของเนื้อที่หนาและนุ่ม รสชาติหวาน พร้อมทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เป็นที่ต้องการสำหรับผู้บริโภคญี่ปุ่น โดยประเทศไทยผู้ประกอบการมากกว่า 850 ราย ที่กำลังการผลิตกว่า 180,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 1,200 ล้านบาท
โดยทางรัฐบาลมั่นใจการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นการเริ่มต้นเพื่อยกระดับและพัฒนาการประกันคุณภาพให้กับสินค้า ช่วยให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นได้มั่นใจ เพิ่มการบริโภค สับปะรดห้วยมุ่น มากขึ้น
นอกจากสินค้าด้านการเกษตรสับปะรดสด ที่ได้รับความนิยมแก่ผู้บริโภคของประเทศญี่ปุ่นแล้ว รัฐบาลยังได้พบว่า ตลาดการนำเข้าสับปะรดของประเทศญี่ปุ่นยังมีความต้องการสับปะรดแปรรูปสูงเช่นเดียวกัน เช่น น้ำสับปะรด สับปะรดกระป๋อง และสับปะรดอบแห้ง โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าสำคัญในการส่งออกสับปะรดมากเป็นอันดับ 4 รองจากฟิลิปปินส์ คอสตาริกา และอินโดนีเซีย
ซึ่งประเทศไทยจะสามารถ นำเอาประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ในการลดภาษีนำเข้า เพื่อเพิ่มความได้เปรียบให้กับการส่งออกสับปะรดของประเทศได้