ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เพจดังโพสต์แฉ ตำรวจจราจรพื้นที่จังหวัดขอนแก่น รีดเงินชาวบ้านที่แต่งรถท่อดัง แต่รถตำรวจเองก็ไม่ติดป้ายทะเบียน หลักฐานชัดยึดเงินใส่มือ
ดรามา ! ตร.เรียกรับเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
เพจอีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ภาพ ตำรวจจราจรนายหนึ่ง รับเงินแบงก์ 500 จากชาวบ้าน ส่วนอีกภาพจะเห็นตำรวจนายนี้ขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมระบุข้อความว่า "คืออะไร ขอคำตอบจากจราจรขอนแก่น รถตัวเองไม่ติดแผ่นป้านได้ ชาวบ้านท่อดังปรับ 2,000 แต่ถ้าจ่ายหน้างาน ยัดแบงก์ม่วง หมายความว่าอย่างไร"
สั่งย้าย "ตร.จราจร" รีดเงินชาวบ้าน
ล่าสุด พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เบื้องต้นได้สอบถามไปยังผู้เสียหายแล้ว ทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งเอกสาร จากนั้นเดินทางกลับ ก็มีตำรวจจราจรขี่รถจักรยานยนต์ตาม พร้อมบอกให้จอด แล้วแจ้งว่า "รถท่อดัง ต้องเสียค่าปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจร จำนวน 2,000 บาท" แต่ผู้เสียหายบอกว่า "มีแค่ 500 บาท" ตำรวจนายนี้ก็บอกว่า "งั้นก็จ่ายมาแค่ 500 บาท" เมื่อตำรวจจราจรรายดังกล่าวได้เงินแล้วก็ขี่รถแยกย้ายไป ส่วนภาพถ่ายที่ถูกแชร์ในโซเชียลนั้น ทราบว่า แฟนสาวเป็นคนถ่ายไว้
ต่อมาได้เรียกตำรวจนายดังกล่าว ยศนายดาบตำรวจ สังกัด สภ.เมืองขอนแก่น มาสอบถามข้อเท็จจริง เจ้าตัวยอมรับว่า "รับเงินมาจริง แต่หลังจากนั้นได้เอาเงินคืนให้ผู้เสียหายไปเรียบร้อยแล้ว" แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและการกระทำของดาบตำรวจนายนี้ ถือว่าเป็นการเรียกรับผลประโยชน์ที่ไม่ควรได้ ถือว่ามีความผิดเต็ม ๆ ทั้งวินัยและอาญา จึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้มีคำสั่ง สภ.เมืองขอนแก่น ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ให้ ดาบตำรวจนายนี้ ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 และมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการ ตรวจจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า การกระทำของดาบตำรวจนายนี้ ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน เป็นตำรวจจราจรต้องรู้อยู่แล้วว่า การตรวจจับในข้อหาต่าง ๆ นั้น ต้องมีการตั้งด่านตรวจและจับกุม ตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันที่เป็นของกลาง เช่น ผู้เสียหายรายดังกล่าว แม้เป็นเหตุซึ่งหน้า พบเจอแล้ว สามารถแจ้งข้อหาและเขียนใบสั่งได้ แต่ต้องตรวจยึดรถ นำมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้มีการเปรียบเทียบปรับ ส่วนจะปรับ 2,000 บาท หรือปรับขั้นต่ำ ก็ให้เจ้าหน้าที่ในส่วนของงานจราจร ทำการเปรียบเทียบปรับ ซึ่งไม่สามารถกระทำแบบที่มีการแชร์ในโซเชียลได้