นักวิเคราะห์ ชี้ มี “วัฒนธรรมอำนาจกดทับ” ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หลังเกิดเหตุ นรต. ถูกล่วงละเมิด

นักวิเคราะห์ ชี้ มี “วัฒนธรรมอำนาจกดทับ” ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หลังเกิดเหตุ นรต. ถูกล่วงละเมิด

View icon 151
วันที่ 20 พ.ย. 2567 | 11.56 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วิทยากรทางอาชญาวิทยาและสังคมศาสตร์ วิเคราะห์กรณีข่าวนักเรียนนายร้อยตำรวจถูกอาจารย์ในโรงเรียนล่วงละเมิดทางเพศ เผยมีวัฒนธรรมอำนาจกดทับ หรือ “ระบบอาวุโส” ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เสนอสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ

วันนี้ (20 พ.ย. 67) พ.ต.ต.ดร.อู่ธนา สุระดะนัย โพสต์ข้อความระบุในเฟซบุ๊กว่า “ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถาบันการศึกษา: เมื่ออำนาจและโครงสร้างสังคมกลายเป็นกับดัก”

กรณีข่าวนักเรียนนายร้อยตำรวจถูกอาจารย์ในโรงเรียนล่วงละเมิดทางเพศ เป็นมากกว่าเรื่องราวของการกระทำผิดเฉพาะบุคคล แต่เป็นภาพสะท้อนของปัญหาเชิงโครงสร้างในสถาบันการศึกษาที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำทางอำนาจและวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้เกิดพฤติกรรมเช่นนี้ขึ้นได้ เมื่อพิจารณาผ่านมุมมองทางอาชญาวิทยาและสังคมศาสตร์ เราพบว่าปัญหานี้มีรากฐานจากหลายประเด็นที่ซับซ้อน ซึ่งต้องการทั้งการวิเคราะห์เชิงลึกและแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน

วัฒนธรรมอำนาจกดทับ
“ระบบอาวุโส” ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจหรือสถาบันการศึกษาที่มีลำดับชั้นอำนาจชัดเจน ผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่ามักได้รับสิทธิและอำนาจในการควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างแทบไม่มีการตรวจสอบ ความกลัวต่อการลงโทษหรือผลกระทบต่ออนาคตทำให้เหยื่อเลือกที่จะเงียบหรือยอมจำนน ปัญหานี้สะท้อนถึงวัฒนธรรมอำนาจนิยมที่ยังฝังรากลึกในสังคมไทย ซึ่งเอื้อให้เกิดการใช้อำนาจในทางที่ผิด

โครงสร้างที่สร้างโอกาสให้กระทำผิด
เมื่อพิจารณาผ่านทฤษฎีโอกาส (Opportunity Theory) จะพบว่า การล่วงละเมิดเกิดขึ้นได้เมื่อมีแรงจูงใจ โอกาส และการขาดการควบคุม สถาบันที่ไม่มีระบบตรวจสอบภายในที่โปร่งใส เช่น การไม่มีช่องทางร้องเรียนที่ปลอดภัย หรือการขาดมาตรการลงโทษที่ชัดเจน เป็นการเปิดช่องให้ผู้กระทำผิดเชื่อว่าการกระทำของตน “ปลอดภัย” และจะไม่ถูกลงโทษ

บทบาทของสังคมและเพศสภาพ
นอกจากนี้ ทฤษฎีแสดงบทบาททางเพศ (Sexual Script Theory) ยังชี้ให้เห็นว่าค่านิยมที่บิดเบือนเกี่ยวกับอำนาจและเพศ อาจทำให้ผู้กระทำมองว่าการล่วงละเมิดเป็นสิ่งที่ “ยอมรับได้” หรือ “ควบคุมได้” โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังขาดการให้ความรู้ด้านจริยธรรมและเพศศึกษา

วัฏจักรของการล่วงละเมิด
อีกแง่มุมที่น่าพิจารณาคือ ทฤษฎีวงจรการล่วงละเมิด (Cycle of Abuse Theory) ที่ระบุว่า ผู้กระทำผิดบางคนอาจเคยเป็นเหยื่อในอดีต และเรียนรู้พฤติกรรมที่ผิดเหล่านี้จากประสบการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม

แนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน
การแก้ไขปัญหาล่วงละเมิดทางเพศในสถาบันการศึกษาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สถาบันควรสร้างระบบร้องเรียนที่เป็นอิสระและปลอดภัย เพื่อให้เหยื่อมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับความยุติธรรมโดยไม่ต้องกลัวผลกระทบ นอกจากนี้ จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ และเพิ่มความโปร่งใสในการทำงาน การให้ความรู้ด้านจริยธรรมและเพศศึกษาควรเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในทุกระดับ

ท้ายที่สุด สังคมต้องแสดงให้เห็นว่าการล่วงละเมิดทางเพศไม่ใช่เรื่องที่สามารถปกปิดหรือยอมรับได้ ผู้กระทำผิดต้องได้รับบทลงโทษที่เหมาะสม เพื่อยืนยันว่าความยุติธรรมยังคงอยู่ในสถาบันที่ควรเป็นต้นแบบของคุณธรรม

“สถาบันการศึกษาควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ใช่สนามทดลองของการใช้อำนาจในทางที่ผิด เราต้องไม่ปล่อยให้ความเงียบเป็นคำตอบ แต่ต้องเปลี่ยนมันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง