วันนี้ (21 พ.ย. 67) สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากที่ปิดให้บริการในระหว่างวันด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีทางอากาศ สืบเนื่องจากกรณีที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย
บริดเจ็ต บริงก์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเครน โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ (X) ว่า "@USEmbassyKyiv กลับมาให้บริการอีกครั้งแล้ว หลังหยุดทำการชั่วคราวเพื่อการหลบภัย" อย่างไรก็ตาม ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเครนขอให้พลเมืองสหรัฐฯ ยังคงเฝ้าระวัง ติดตามข้อมูลความคืบหน้าจากแหล่งข่าวทางการของยูเครนต่อไป และเตรียมพร้อมหลบภัยหากมีประกาศเตือนการโจมตีทางอากาศ
ก่อนหน้านี้ แถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟ ระบุว่า "เพื่อความไม่ประมาท สถานเอกอัครราชทูตจะปิดทำการ และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตได้รับคำแนะนำให้หลบภัยอยู่ในที่พัก"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สถานทูตอิตาลีและกรีซก็ปิดทำการเช่นเดียวกัน ขณะที่สถานทูตฝรั่งเศสยังคงเปิดทำการแต่เตือนให้พลเมืองของตัวเองระมัดระวัง
คำเตือนของสถานทูตมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีดินแดนของรัสเซีย โดยใช้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังจะพ้นวาระ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธดังกล่าวยิงเข้าพื้นที่รัสเซียเป็นครั้งแรก ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1000 วันสงครามยูเครน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เคยกล่าวเมื่อเดือนต.ค. ว่า รัสเซียนั้นพร้อมจะตอบโต้ หากยูเครนใช้อาวุธซึ่งผลิตในสหรัฐฯ โจมตีลึกเข้าไปในพื้นที่รัสเซีย
