“ทักษิณ” เปิดประสบการณ์ นักธุรกิจ - นักการเมือง 25 ปี ประกาศขออยู่บนดิน ไม่เอาแล้ว ขึ้นสวรรค์ - ตกนรก
ที่โรงแรม The Ritz Carlton, One Bangkok วานนี้ ( 21 พ.ย.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงาน Gala Dinner and Session XVII In Conversation พร้อมร่วมสนทนากับ Steve Forbes, Chairman and Editor-in-Chief, Forbes Media ซึ่งมีภาคเอกชนยักษ์ใหญ่ของประเทศเข้าร่วมจำนวนมาก
นายสตีฟ ได้กล่าวแซวนายทักษิณว่า ชอบกินไก่เคเอฟซี ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะของแขกที่ร่วมงาน จากนั้นนายทักษิณ ได้กล่าวถึงประสบการณ์การทำงาน 25 ปีที่ผ่านมา ว่ามีนรกและสวรรค์ ชีวิตตนเริ่มธุรกิจมาจากศูนย์ และผ่านความยากลำบากมาอย่างมากมาย ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ และเห็นนรกก่อนเห็นสวรรค์ ในการดำเนินธุรกิจ ก่อนที่จะกระโดดลงมาเล่นการเมือง เพราะทุกครั้งที่ตนลงไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดก็เห็นคนยากจน ไปกี่ครั้งก็เป็นเหมือนเดิม ตนจะคิดว่านอกจากจะช่วยตัวเองและครอบครัวแล้ว ทำไมจึงไม่ช่วยคนที่น้อยกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจเล่นการเมือง ซึ่งในช่วงต้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าเห็นสวรรค์ในทางการเมือง ส่วนนรกนั้นตามมาทีหลัง พร้อมกับระบุว่า นรกสวรรค์คือชีวิตของตน มีขึ้นและมีลง และตอนนี้คิดว่าอยู่บนพื้นดินแล้ว ไม่เอาสวรรค์ไม่เอานรก
นายทักษิณ ระบุถึงพรรคร่วมรัฐบาล ว่า รัฐบาลผสมมีพรรคร่วม จึงต้องมีข้อตกลงร่วมกันในการทำหลายสิ่ง แต่บางเรื่องอาจจะไม่ได้เห็นรัฐบาลผสม ซึ่งโชคดี เพราะส่วนใหญ่คนที่อยู่ในรัฐบาลผสมด้วยกันขณะนี้ เคยทำงานร่วมกับตนตอนที่ตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมาในปี 2541 และกลายเป็นรัฐบาลในปี 2544 และคนที่เป็นตัวหลักส่วนใหญ่ก็เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของตน ความร่วมมือ และความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลถือว่ายังดีอยู่ และอีกหนึ่งสิ่งนายกรัฐมนตรีหน้าตาคล้ายตน คงรู้สึกคุ้นเคย และเคยทำงานกับตน แต่อาจจะเป็นเวอร์ชั่นที่ 2
ส่วนเรื่องที่ถูกตกเป็นเป้าทางการเมือง และในวันนี้ (22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านคำวินิจฉัย นายทักษิณ ระบุว่าผ่านจุดนี้ มาบ่อยๆ ผ่านมาหลายสิ่ง อย่างที่บอกว่าเห็นทั้งนรกและสวรรค์ ไม่มีอะไรที่ทำให้ตนนั้นตื่นเต้น ตนก็รู้สึกว่า ไม่เป็นไร ก็แค่รอรับฟังคำตัดสิน เพราะต้องมองไปข้างหน้า เราไม่ย้อนกลับไปในอดีต ไปข้างหน้าแต่ไม่ใช่ moving forward ซึ่งคำนี้ดันไปตรงกับคำว่า moving forward party ของพรรคก้าวไกล
ขณะเดียวกันนายทักษิณ ยังกล่าวว่า ตนชอบเวลาไปวัดสงบจิตใจไปไหว้พระ ไปสักการะพระพุทธรูปและกลับมานอนหลับฝันดี ส่วนทางที่จะไปอาจจะมีหมาเห่า คุณไม่ต้องรู้หรอกว่าทำไมมันถึงเห่า ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องหมา ก็ไปนอนซะ ก็จะมีจิตใจที่สงบ
และตอนหนึ่งนายทักษิณ ยังเล่าถึงการจากประเทศไทยว่า ในช่วง 17 ปีที่ต้องไปอยู่ต่างแดน จำเป็นมากๆ ที่ต้องรักษาความสงบในจิตใจ ถ้าหากคิดลบกับตัวเอง คงอยู่มาถึงไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ และ 17 ปีที่ผ่านมาตนไปแทบทุกประเทศ ยกเว้นแคริบเบียน และไม่ว่าตนจะไปที่ใด ต้องมีธุรกิจที่จะไปทำ และการพักผ่อนเป็นเพียงแค่ส่วนเสริม ฉะนั้นจึงไม่ไปทะเลแคริบเบียน เพราะการไปพักผ่อนไม่ใช่หัวใจและข้อสำคัญในชีวิตของตน พร้อมเปรียบว่าเกิดปีวัว ทำงาน ทำงาน ทำงาน อย่างเดียว และตอนนี้อายุ 75 แล้วบางวันยังต้องทำงาน 14 ชั่วโมงอยู่เลย และตอนนี้มีเงินเดือนตอนนี้ 700 บาท คือ เงินค่าอุดหนุนผู้สูงอายุ