“โอปอล” เข้าทำเนียบ ฯ พบนายก ฯ อิ๊งค์ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด ชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็ก ๆ เขินถูก “โอปอล” ชมว่าตัวจริงสวย ร่วมประกวดได้
วันนี้ (22 พ.ย.67) นางปิยาภรณ์ แสนโกศิก กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด นำนางสาวสุชาตา ช่วงศรี หรือ โอปอล รองมิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นางปิยาภรณ์ กล่าวว่า น้องโอปอล อยากมาเยี่ยมคารวะผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ก็คือนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอกว่า ตนเองไม่ได้ดูการประกวดครั้งนี้ เนื่องจากเวลาประกวดตนอยู่บนเครื่องบิน ขณะเดินทางกลับจากประเทศเปรู แต่เมื่อมีผู้สื่อข่าวมาสอบถามตนก็รีบไปดูข่าว ว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ขอแสดงความยินดี
หลังจากนั้น “โอปอล” ได้มอบพวงมาลัยสีขาวให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายก ฯ ได้ชมว่า น้องโอปอลสวย ก่อนที่โอปอล จะได้ชมนายกรัฐมนตรีว่า “ตัวจริงสวยค่ะ” ซึ่งนายกฯ รีบพูดทันทีว่า “ น้องพูดแบบนั้นไม่ได้นะคะ เพราะพี่กดดัน และทำให้พี่เครียดเพราะเมื่อถ่ายรูปคู่กันแล้ว ทำให้เห็นความสูงของตนเองหมดเลย” พร้อมทำท่ายิ้มเขินอาย
จากนั้นทั้ง 3 คนได้นั่งพูดคุยกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามการประกวด ซึ่งนางปิยาภรณ์ ได้บอกกับนายกรัฐมนตรีว่า การประกวดครั้งนี้ ได้นำโจทย์ ที่นายก ฯ เคยพูดไว้ เกี่ยวกับเรื่องการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งน้องโอปอล ได้เรียนคณะรัฐศาสตร์ทางการทูต ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และได้กำหนดประเด็นขึ้นมาว่า นายกฯ พูดมาเสมอเรื่องของผ้าไทย และการผลักดันเศรษฐกิจชุมชน ให้เกิดความยั่งยืน จึงเป็นที่มาที่น้องโอปอลนำผ้าไทยไปสวมใส่ในการประกวดหลายชุด
ขณะที่โอปอล กล่าวว่า โดยปกติตนเองเป็นคนชื่นชอบใส่ผ้าไทยอยู่แล้ว และรู้สึกว่าเมื่อใส่ผ้าไทยในการประกวดแล้ว มีความโดนเด่น ซึ่งผู้เข้าประกวดต่างชาติจะรู้สึกชื่นชอบเวลาที่เห็นเราใส่ชุดไทย และเข้ามาสอบถามที่มาของชุด จึงอยากส่งเสริม นอกจากนี้ผู้เข้าประกวดหลายคนยังสนใจ กระเป๋าที่สานจากกระจูด และได้ขอไอจีร้านค้าไปด้วย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า การไปต่างประเทศ เปรียบเสมือนเป็นตัวแทน ซึ่งจะถือเป็นโอกาสที่จะทำให้คนทั่วโลกได้เห็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ซึ่งนายกฯ ก็ได้สอบถามโอปอลหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการเตรียมตัว พร้อมชื่นชมโอปอล ที่สามารถผ่านเข้ารอบลึกในการประกวดได้ และขอให้กำลังใจโอปอล พร้อมชมโอปอลว่า เป็นคนที่มองบวก
ขณะที่นางปิยาภรณ์ บอกกับนายกฯ ว่า ในการประกวดโอปอล คือบุคคลที่ถูกถ่ายรูปด้วยมากที่สุด โดยเฉพาะในค่ำคืนงานเปิดตัวมงกุฎ โอปอลได้สวมใส่ชุด “สิริพัสตรา ศิวาลัย” ซึ่งเป็นการนำเสนอชุดไทยประยุกต์ ทำให้หลายคนที่ได้เห็นมองว่า ชุดดังกล่าวสามารถนำไปผสมผสานกับชุดอื่น ๆ ได้ ซึ่งนายกฯ ได้ชมว่าชุดดังกล่าว เป็นชุดที่สวย
นายกรัฐมนตรี ยังได้สอบถามโอปอล เพิ่มเติมว่า จากนี้จะมีภารกิจอะไรบ้าง เพราะคงต้องเดินสายไปงานต่างประเทศหลายประเทศ จึงขอแนะนำโอปอลว่า ให้ดริปวิตามินบ้าง อย่างเช่น ตนเองเวลาที่จะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมประชุม ก็จะไปดริปวิตามินก่อน เพราะเนื่องจากการเดินทางใช้เวลานาน และพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งโอปอล ได้บอกกับนายกฯ ว่า นายกฯ น่าจะทำงานหนักกว่าตนเอง ทำให้นายกฯ ตอบกลับว่า เป็นการทำงานหนักกันคนละแบบ ซึ่งต้องดูแลตัวเองทุกวินาที ต้องสวยทั้งภายนอก และภายใน
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี อยากจะให้ทีมงานช่วยประสาน ให้โอปอลมาทำงานร่วมกันกับรัฐบาล เพราะจะทำให้เด็ก ๆ ที่ดูอยู่เกิดแรงบันดาลใจ และเอาเป็นแบบอย่าง ซึ่งเด็ก ๆ เหล่านั้นก็จะได้ตั้งใจเรียน และมีความฝันที่อยากจะเป็นเหมือนโอปอล ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน แต่ขอให้รองานของโอปอล ได้น้อย ๆ ลงก่อน เพราะเข้าใจว่าช่วงแรก จะยังคงงานเยอะอยู่ เพราะตอนนี้รัฐบาลต้องการความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ซึ่งทางนางปิยาภรณ์ บอกว่า โอปอล ก็มีความยินดี เพราะจะถือเป็นหนึ่งในการสนับสนุน และทำตามที่รัฐบาลได้วางนโยบายไว้เพื่อขับเคลื่อนประเทศ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังสอบถามถึงคุณสมบัติ ของนางงามที่จะเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งได้รับคำตอบว่า กองประกวด ไม่จำกัดอายุ ส่วนสูง และน้ำหนัก พร้อมแซวนายกฯ ว่า นายกฯ ก็สามารถประกวดได้ ทำให้นายกฯ รีบหัวเราะ พร้อมระบุว่า “ไม่ไหวค่ะ” พร้อมเชิญชวนให้โอปอล พัฒนาจุดเด่นของตัวเองให้เป็นจุดแข็ง เพราะบางครั้งจุดอ่อนไม่สามารถกลายเป็นจุดแข็งได้ ซึ่งบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี และจะได้รู้ว่าเราเก่งตรงไหน เราจะได้พัฒนาขึ้นไปอีก ซึ่งในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณโอปอล ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี และโอปอล ได้เดินไปถ่ายภาพร่วมกันบริเวณห้องโถง ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนชื่นชมโอปอลว่า น้องโอปอลไม่ใช่ลูกครึ่ง แต่เหมือนลูกครึ่ง และสอบถามเรียนที่ไหน โอปอล ระบุว่า กำลังศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนโอปอล ทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งโอปอล ตอบรับว่า “ยินดีค่ะ”