ประเด็นเด็ด 7 สี - คดีนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าพ่อรู้จักกับ "บิ๊กตำรวจ" สามารถช่วยประกันตัวชาวจีนได้ พอผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็เท่ากับเสียรู้ ถูกสูบเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาท
นายธนจิตร อายุ 27 ปี ถูกตำรวจสืบสวนนครบาล ตามไปจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่า ซอยพัฒนาการ 10/1 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ หลังมีผู้เสียหายมาแจ้งความว่าถูกผู้ต้องหาหลอกเอาเงินไป 1.2 ล้านบาท
คดีนี้ผู้เสียหายรู้จักกับผู้ต้องหา ช่วงต้นปี 2565 หลังเพื่อนชาวจีนถูกจับ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นายธนจิตร เลยอาสาช่วยเหลือ อ้างว่ามีพ่อเป็นทหารยศ "พลตรี" สนิทสนมกับ "รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง" แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย 5 แสนบาท
แผนการเริ่มครั้งแรก 14 กันยายน 2565 จากเบา ๆ ขอค่าเลี้ยงอาหารผู้ใหญ่ 50,000 บาท และขออีกก้อนประมาณ 40,000 บาท ในวันเดียวกัน ต่อมา วันที่ 17 กันยายน ประมาณ 300,000 บาท และอีก 3 วันต่อมา ก็ขออีก 200,000 บาท อ้างว่า รองผู้การฯ ตม.3 เรียกเงินจำนวนนี้ แล้วรับปากว่า 5 ตุลาคม จะไปรับตัวเพื่อนได้
แต่พอถึงวันนัด ก็อ้างชื่อ ผู้การฯ ตม.3 เรียกเงิน 400,000 บาท แล้วนัดหมายใหม่ว่าอีก 3 วัน จะรับตัวเพื่อนได้ แต่พอถึงเวลาไม่เจอเพื่อนไม่พอ ยังจะอ้างชื่อ ผู้การฯ คนเดิม ขอเงินอีก 600,000 บาท คราวนี้ผู้เสียหายปฏิเสธไม่โอน
ผ่านไปอีก 16 วัน ผู้ต้องหาก็งัดมุกใหม่ อ้างว่ามี "สจ." เจ้าของเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ช่วยได้ จะขอค่านัดทานข้าวกับผู้ใหญ่ 50,000 บาท แล้ว 24 ตุลาคม ผู้การฯ อ้างจะช่วย แต่ขอเงินอีก 30,000 บาท ซึ่งเงื่อนไขนี้เป็นกับดักที่วางไว้ เพราะมีการยื่นข้อเสนอของ "สจ." ควบคู่ไปด้วย ว่าจะขอเงิน 500,000 บาท ให้ผู้เสียหายตัดสินใจ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ยอมจ่าย 30,000 บาท แต่ก็เท่านั้น เพราะผู้ต้องหาขอเงินทิ้งท้ายอีก 70,000 บาท เป็นค่าจ้างทนายความ แล้วสุดท้ายออกลายบ่ายเบี่ยง ไม่รับโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้
ต่อหน้าตำรวจและหลักฐาน นายธนจิตร ยอมรับว่าเอาเงินไปใช้ส่วนตัว แล้วหลบหนีไปต่างจังหวัด ส่วนพ่อก็ไม่ได้เป็นทหารตามที่อ้าง แต่ทำงานเชียร์แขกอยู่ในสถานบันเทิง ก่อนถูกพาตัวไปส่ง สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดี