ตำรวจไซเบอร์รวบขบวนการสวมรอยเป็นเพื่อนสนิท ทักแช็ตหลอกยืมเงินจากเหยื่อ อึ้ง ! พบหมายจับ 5 หมาย และมีเหยื่อโผล่อีกเพียบ
วันนี้ ( 27 พ.ย.67) สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมืองอุทัยธานี ว่า ขณะกำลังเล่นเฟซบุ๊ก ได้มีเพื่อนสนิททักเข้ามา เล่าถึงความเดือดร้อนทางการเงิน และจบลงด้วยการขอยืมเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อเพราะเป็นเพื่อนสนิท และเกิดความสงสาร จึงโอนเงินไปให้ที่บัญชีชื่อ น.ส.ดารินทร์ ตอนแรกสงสัย จึงทักกลับไปถามเพื่อนในแชท แล้วตอบกลับว่าบัญชีของตนเองถูกระงับ ให้โอนมาที่บัญชีของเพื่อนก่อน ผู้เสียหายไม่ได้เอะใจ จึงโอนเงินให้ ต่อมาได้คุยกับคนในครอบครัว และคิดว่าน่าจะถูกหลอก จึงโทรไปสอบถามเพื่อนที่แชตมายืมเงิน ปรากฎความแตก ไม่ได้มีการยืมเงินกันจริง แต่ก็สายเกินไป จึงเดินทางมาแจ้งความ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 และ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 ให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้
ต่อมาตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ดารินทร์ เจ้าของบัญชีธนาคาร หลบหนีมาทำงานอยู่บริเวณกรุงเทพกรีฑา จึงมาทำการตรวจสอบ และในวันที่ 25 พ.ย.67 พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4, ร.ต.อ.เปรมประชา อุตมา รอง สว.กก.2 บก.สอท.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำหมายจับของศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ 128/2567 ลงวันที่ 13 มิ.ย.2567 เข้าจับกุมตัว น.ส.ดารินทร์ ได้ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
จากการสอบถาม น.ส.ดารินทร์ฯ ให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องหลอกทางเฟซบุ๊ก และให้การว่าเมื่อช่วงปลายปี 64 ตนเองประสบปัญหาด้านการเงิน มีเพื่อนมาขอให้เปิดบัญชีม้า ซึ่งตนก็มีบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่งอยู่แล้ว ตนแค่เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับโมบายแบงค์กิ้งเป็นเบอร์ที่ผู้ซื้อบัญชีม้าต้องการ โดยไม่ต้องไปทำธุรกรรมที่ธนาคารแต่อย่างใด ซึ่งผู้ต้องหาก็รู้ตัวดีว่าสักวันต้องโดนจับ