ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศ อิสราเอล และ กลุ่มอิซบอลเลาะห์ บรรลุข้อตกลงหยุดยิง หลังการสู้รบกันในเลบานอนมานาน 13 เดือน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าอิสราเอลกับกลุ่มอิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน โดยมีสหรัฐฯ และฝรั่งเศสเป็นตัวกลางในการเจรจา ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (27 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 09.00 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาในไทย นับเป็นการสิ้นสุดการสู้รบยาวนาน 13 เดือน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่มีอิหร่านให้การหนุนหลัง โดยการสู้รบดังกล่าว ทวีความรุนแรงขึ้นหลังอิสราเอลเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮามาส (Hamas) ในฉนวนกาซา อย่างหนัก
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ยุติการสู้รบอย่างถาวร ซึ่งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ จะไม่อาจคุกคามความมั่นคงของอิสราเอลได้อีก ส่วนพลเรือนจากทั้ง 2 ฝั่ง ก็จะสามารถกลับเข้าชุมชนของตนเองได้อย่างปลอดภัย
สำหรับเงื่อนไขตามข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ อิสราเอลจะค่อย ๆ ถอนกำลังทางทหารออกจากเลบานอนภายใน 60 วัน ขณะที่ กองทัพเลบานอนก็จะเข้าไปควบคุมพื้นที่บริเวณชายแดนใกล้กับอิสราเอล เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ จะไม่สามารถกลับมาสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ได้อีก อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังไม่ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการต่อข้อตกลงหยุดยิงนี้
ขณะที่ ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศในพื้นที่ใจกลางกรุงเบรุต รวมทั้งหลายพื้นที่ของเลบานอน โดยวานนี้ (26 พ.ย.) มีรายงานผู้เสียชีวิตในเลบานอนอย่างน้อย 18 คน
ส่วนที่ กรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอล มีประชาชนชาวอิสราเอลที่พลัดถิ่นมาจากชายแดนตอนเหนือของประเทศ และกลุ่มผู้สนับสนุน ออกมาประท้วงต่อต้านข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ด้วย
