อาสาสมัครทหารพราน ขี่มอเตอร์ไซค์จาก จ.สุรินทร์ นำคลิปหลักฐานทวงความยุติธรรมให้น้องสาว ม.2 ที่ถูกรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียน จ.ขอนแก่น
27 พ.ย. 67 อาสาสมัครทหารพราน วัย 24 ปี ได้นำคลิปภาพเหตุการณ์ขณะที่น้องสาว ชั้น ม.2 ถูกรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียน ส่งให้กับผู้สื่อข่าว หลังจากเพื่อนของน้องสาวที่หมู่บ้านส่งให้ดู
โดยในคลิปแรก เผยให้เห็นกลุ่มนักเรียนหญิง 5-6 คน ที่อยู่ในชุดนักเรยีนและชุดพละ กำลังรุมทำร้ายทุบตีแตะต่อย กระชากผม เด็กนักเรียนหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันรายหนึ่ง ที่ไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนแต่อย่างใด ก่อนที่จะมีเสียงนักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "ห้ามมึงไปบอกครูนะ ถ้ามึงบอกครู มึงเจอหนัก มึงได้ย้ายโรงเรียน" จากนั้นนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ ได้ต่อสูู้กับเพื่อนนักเรียนที่ใส่ชุดพละ ก่อนจะถูกเพื่อนในห้องรุมเทำร้าย โดยมีนักเรียนชาย ทุบไปที่นักเรียนหญิงผู้ถูกกระทำอย่างแรง จนเสียงทุบฟังได้ชัดเจน 4-5 ครั้ง ก่อนที่เพื่อนคนอื่น ๆ จะรุมกระชากดึงผมของนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ โดยมีนักเรียนหญิงที่สวมชุดพละยังคงยืนคร่อมตัวอยู่ ก่อนจะจับศีรษะนักเรียนหญิงผู้ถูกกระทำกระแทกลงที่พื้นห้องเรียนอย่างแรง
ขณะที่คลิปวิดีโอต่อมา เป็นภาพการต่อสู้ระหว่าง นักเรียนหญิงที่ถูกกระทำและเพื่อนนักเรียนหญิงที่สวมชุดพละ โดยนักเรียนที่สวมชุดพละ กระชากที่ผม และเหวี่ยงนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำจนล้มลง มือข้างหนึ่งยังจับกระชากที่ผม อีกข้างทุบตีที่หลังอย่างแรงนับ 10 ครั้ง ก่อนจะใช้เท้าถีบไปที่หน้าอีก 1 ครั้ง
ส่วนอีกคริป เป็นภาพนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ นั่งอยู่ที่พื้นในสภาพ หัวฟู เสื้อนักเรียนและกระโกรงยับยู่ยี่ โดยในคลิป ได้มีขาของนักเรียนชายยื่นออกมา พร้อมมีเสียงบอก "มึงกราบสิ" ซึ่งนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำได้ก้มลงกราบ หลังจากนั้น มีนักเรียนหญิงที่อยู่ด้านหลังถีบมาที่นักเรียนหญิงที่ถูกกระทำจนหน้าคว่ำ ก่อนที่คนถือกล้องถ่ายคริปจะเดินเข้ามาใกล้ พร้อมพูดว่า "กี่รอบแล้ว มึงน่ะกี่รอบแล้ว ที่มายุ่งกับผัวเขา มึงไม่ต้องขอโทษกู คนอย่างมึงโดนกูไม่เสียดายหรอก" ก่อนที่จะมีนักเรียนหญิงจากด้านหลังเข้ามาตบที่หน้าของนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ พร้อมทั้งมีเสียงเพื่อนเตือนว่า "ปลาย มึงอย่าตีหน้ามัน"
ขณะที่คลิปที่ 4 เป็นคลิปช่วงกลางคืน เป็นภาพนักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ นอนอยู่ที่พื้น และถูกเพื่อนนักเรียนชายทุบตีและฟาดที่หัวอย่างแรง พร้อมบอกว่า "พยายามใจเย็นสุดแล้ว"
และคลิปสุดท้าย เป็นภาพขณะmujนักเรียนหญิง นั่งย่อขา ก่อนถูกเด็กหญิงสวมเสื้อสีเหลืองเดินเข้ามากระชากผมที่ศีรษะ พร้อมบอกว่า "มึงเป็นอะไร ทำไมมึงคือขายแต่กู" ก่อนที่ ทั้งสามคน จะเดินแยกจากกัน โดยนักเรียนชาย ที่สวมชุดนอนบอกว่า "มึงกลับบ้านมึงเลยนะมึง"
ซึ่งจากการสอบถาม 3 คลิปแรกเป็นเหตุการณที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อวาน (26 พ.ย.67) ที่ผ่านมา โดยเกิดขึ้นช่วงพักเที่ยงภายในห้องเรียน ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น
ขณะที่ คลิปที่ 4 และ 5 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเวลากลางคืน บริเวณหน้าบ้านของน้องผู้ถูกกระทำเอง โดยเหตุเกิดเมื่อราวสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งหมดเป็นคริปที่พี่ชายแทบทนดูไม่ได้ และนำเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แวงใหญ่ เพื่อให้ติดตามผู้กระทำต่อน้องสาวมาพูกคุยและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลแวงใหญ่ จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับ อาสาสมัครทหารพราน อิทธิพล อายุ 24 ปี ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาจาก จ.สุรินทร์ เพื่อ พา ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจในกรณีที่ถูกทำร้าย พร้อมทั้งเปิดคลิปหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่น้องสาวของอาสาสมัครทหารพราน ถูกเพื่อนในชั้นเรียนรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียน และบังคับให้ก้มกราบเท้า โดยมีรุ่นพี่ชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกันเป็นคนสั่งการ โดยในเหตุการณ์ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นคลิปช่วงกลางคืน ส่วนคริปในห้องเรียน เพิ่งเกิดเหตุภายในห้องเรียน ช่วงเที่ยงของเมื่อวานที่ผ่านมา
ซึ่งภายหลังอาสาสมัครทหารพรานพาน้องสาวเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเสร็จ ได้พาน้องสาวเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุพรรณ์ พระบุ สว.(สอบสวน) สภ.แวงใหญ่ ว่า น้องสาวถูกเพื่อนรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียนและในหมู่บ้าน รวม 3 ครั้ง ร่างกายบอบช้ำ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ลงมือทำร้ายน้องสาวและคนที่ถ่ายคลิปหรือคนที่ร่วมในเหตุการณ์ ตามกฏหมายทุกคน
อาสาสมัครทหารพราน อิทธิพล เปิดเผยว่า ตนเป็นอาสาสมัครทหารพรานที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีญาติส่งคลิปขณะที่น้องสาวถูกทำร้ายร่างกายและบังคับให้กราบเท้า เหตุเกิดในห้องเรียนเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีคลิปน้องสาวถูกทำร้ายบนถนนทางเข้าบ้านพัก เหตุเกิดที่บ้านนาโพธิ์ ต.โนนสะอาด อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น จึงได้สอบถามพ่อกับแม่ที่อยู่กับน้องสาวที่บ้าน ซึ่งทราบว่าพ่อแม่ไม่รู้เรื่อง เพราะน้องสาวไม่บอก จึงลางานกับผู้บังคับบัญชา กลับมาที่บ้าน ให้พ่อกับแม่พาน้องสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.แวงใหญ่ จากนั้นก็พามาแจ้งความกับตำรวจ สภ.แวงใหญ่ ให้ทำการสอบสวนและดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทุกเหตุการณ์ตามคลิป เพราะแต่ละคลิปชัดเจนมาก และขอยืนยันว่า ไม่มีการยอมความเด็ดขาด และหากมีการเยียวยาและทำขวัญ ผู้ปกครองของคนก่อเหตุสามารถทำได้ แต่ทางกฏหมายก็ยังต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายเหมือนเดิม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องสาวนั้น จะเกิดจากสาเหตุอะไรตนไม่รู้ รู้เพียงว่า นักเรียนควรไปโรงเรียน เรียนหนังสือ ไม่ควรมารุมทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ และผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานให้ดี ๆ
ขณะที่น้องเอ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกนั้น เกิดจากกรณีของเพื่อน ชื่อปาย นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนเดียวกัน มากล่าวหาว่า ตนพูดเรื่องที่เพื่อนได้เสียกับเพื่อนชาย ซึ่งก็ตอบไปแล้วว่า ไม่ได้พูด แต่เพื่อนไม่เชื่อ จึงร่วมกับเพื่อนชายชื่อต่อ รุมทำร้าย ที่ทางเข้าบ้านพัก นอกจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ล่าสุด เกิดขึ้นในห้องเรียน เมื่อช่วงพักกลางวัน วันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยเพื่อนชื่อต้นข้าว มาถามเรื่องการเอาเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวกับการคบหาเพื่อนชายของต้นข้าวไปนินทา จนเพื่อนชายบอกเลิก ก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่ได้พูด ต้นข้าวจึงพาเพื่อน ชื่อปาย ชื่อกุ๊กไก่ และรุ่นพี่ ม.3 ชื่อปาล์มมี่ มาทำร้ายในห้องเรียน และรุ่นพี่ก็บังคับให้ก้มกราบเท้าเพื่อน ๆ ทุกคน โดยบอกว่าถ้ากราบเท้าจะไม่ทำร้ายอีก แต่หลังจากก้มกราบเท้าแล้ว เพื่อนก็ยังรุมทำร้ายเหมือนเดิม ซึ่งมีเพื่อนนักเรียนในห้องถ่ายคลิปเอาไว้
น้องเอ กล่าวอีกว่า ทุกเหตุการณ์ที่ถูกเพื่อนเรียนชั้นเดียวรุมทำร้ายมาจากเรื่องผู้ชายทั้งนั้น พอเพื่อนชายที่คบหาบอกเลิก ก็มากล่าวหาว่าเป็นเพราะตน แล้วก็พากันมารุมทำร้ายและข่มขู่ว่าห้ามบอกใคร ถ้าครูและพ่อแม่รู้เรื่อง จะตามทำร้ายต่อไปไม่หยุด จึงไม่กล้าบอกพ่อแม่และบอกคุณครู แต่ตอนนี้คุณครูที่โรงเรียนทราบเรื่องแล้ว เพราะมีคลิปแชร์ในโซเชียล พ่อแม่และพี่ชายจึงพามาหาหมอที่โรงพยาบาล เพราะร่างกายบอบช้ำ ปวดที่ต้นคอ และอยากให้ตำรวจเอาเรื่องเพื่อน ๆ และรุ่นพี่ที่ร่วมกันทำร้ายตน ถ้าเป็นไปได้ ตนอยากให้ทางโรงเรียนไล่ทุกคนออกจากโรงเรียน ตนจะได้ไปเรียนหนังสือตามปกติ ไม่มีใครมารุมทำร้ายอีก
ด้าน พ.ต.อ.ศุภสิทธิ์ สุวรรณี ผกก.สภ.แวงใหญ่ กล่าวว่า เห็นคลิปที่วัยรุ่นทำร้ายกันแล้ว และเมื่อฝ่ายผู้ปกครอง ที่เป็นพี่ชายคนเจ็บ นำพาน้องสาวเข้าแจ้งความ พร้อมหลักฐานที่ผู้แจ้งนำมาแจ้งความ ตำรวจก็รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อไปหลังรับแจ้งความ ตำรวจก็จะเชิญผู้ปกครองให้นำบุตรหลานมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำต่อหน้าทีมสหวิชาชีพ เนื่องจากคนเจ็บและคู่กรณีเป็นเยาวชนทั้งหมด เพราะเท่าที่ทราบในเบื้องต้น ถูกทำร้ายด้วยเรื่องผู้ชาย เพราะอีกฝ่ายคบหาเพื่อนชาย แต่ถูกฝ่ายชายบอกเลิก จึงคิดว่าสาเหตุที่ฝ่ายชายบอกเลิก เป็นเพราะคนเจ็บหน้าตาดีกว่า แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ควรจะรุมทำร้ายร่างกายคนอื่น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุแล้ว หลักฐานตามคลิปชัดเจน ทุกคนที่ร่วมกันก่อเหตุก็ต้องมาพบตำรวจเพื่อให้ปากคำ ตำรวจจะดำเนินการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย และให้ศาลเป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป