ฝากขังค้านประกัน แจ้ง 4 ข้อหา รวมเมาแล้วขับ สาวซิ่งเก๋งหรูชนแม่-ลูก 3 ชีวิต เหยียบมา 207 กม./ชม. จับพวงมาลัยมือเดียว อีกมือยกโทรศัพท์ถ่ายรูป ตร. จับเป่า 2 ครั้ง ครั้งแรกวัดได้ 29 มก.เปอร์เซ็นต์ และครั้งที่ 2 วัดได้ 27 มก.เปอร์เซ็นต์ ส่งตรวจเลือดวัดปริมาณแอลกอฮอล์อีกรอบ
จากเหตุการณ์สาวขับรถยนต์หรูสีดำ ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีแม่เป็นผู้ขับขี่ และมีลูกชายอายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 และลูกสาวอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 เสียชีวิต 3 คน เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร โดยสาวคนขับรถเก๋งหรูได้อุ้มแมวหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ ต่อมาวันที่ 28 พ.ย.67 เวลาประมาณ 12.00 น. น.ส.จิรันธนิน (สงวนนามสกุล) มาพบพนักงานสอบสวนแสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์เก๋ง คันเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ด้วยวิธีการเป่าด้วยลมหายใจ 2 ครั้ง ครั้งแรกวัดได้ 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ครั้งที่ 2 วัดได้ 27 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้นำตัว น.ส.จิรันธนิน ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลในกระแสเลือดที่โรงพยาบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจวิเคราะห์
จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ น.ส.จิรันธนิน พบว่าได้ถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือไว้ในขณะขับขี่รถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุ ระบุเวลาถ่ายภาพ 18.56 น. พบความเร็วในภาพถ่ายประมาณ 207 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับขณะที่ภาพของกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์คันเกิดเหตุ จับภาพเฉี่ยวชนบริเวณด้านท้ายของรถจักรยานยนต์ จึงเชื่อว่าขณะเกิดเหตุ น.ส. จิรันธนินได้ขับรถด้วยความเร็ว พร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายไว้ในขณะขับขี่ไปด้วย (ขับขี่รถด้วยมือข้างเดียว) จนเป็นเหตุให้เกิดการเฉี่ยวชน
จากการสอบสวนปากคำผู้มีชื่อครอบครองรถยนต์คันเกิดเหตุ ให้การว่า ในวันเวลาเกิดเหตุอยู่ที่งานบำเพ็ญกุศลศพของญาติที่บ้านทับตะโหนด ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.จิรันธนิน ขับรถยนต์ในขณะเมาสุราโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ซึ่งขังขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และขับรถในทาง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคลและทรัพย์สินของผู้อื่น แล้วไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้เคียงทันที" พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ สอบสวนปากคำ พิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา นำตัวไปที่ศาลจังหวัดชุมพรเพื่อขอหมายขัง โดยค้านการประกันตัวด้วยเหตุว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี