หาดใหญ่ เผชิญวิกฤตน้ำท่วม จ.สงขลา

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หาดใหญ่ อ่วม ! เขตเทศบาลชั้นนอก น้ำท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใกล้เข้าขั้นวิกฤต

"หาดใหญ่" เผชิญวิกฤตน้ำท่วม จ.สงขลา
หลังจากเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้ประกาศธงแดงทั่วพื้นที่เทศบาล พร้อมแจ้งประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของ และเตรียมอพยพ เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำอย่าง อำเภอสะเดา ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และไหลเอ่อล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำสะเดา

อีกทั้งมวลน้ำจำนวนมาก ทยอยไหลผ่านพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ เป็นปลายน้ำลงสู่คลองหลัก 2 สาย คือ คลองอู่ตะเภา และคลองภูมินาถดำริ หรือ คลอง ร.1 (คลองรอหนึ่ง) ก่อนลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทำให้มวลน้ำมหาศาลทะลักท่วมพื้นที่ตัวเมืองหาดใหญ่ ส่วนโซนที่อยู่ชั้นนอกตัวเมือง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วนพื้นที่อำเภอบางกล่ำ มวลน้ำไหลท่วมหนักหลายจุด ชาวบ้านเกิดความโกลาหล คนที่จะเข้าเมืองหาดใหญ่ ไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ ติดอยู่บริเวณสะพานเมตตา ส่วนโซนเศรษฐกิจชั้นในของเมืองหาดใหญ่ น้ำยังไม่เข้าท่วม แต่เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

อาลัยกู้ภัยฮีโร "บุญฤทธิ์ ทองเกิด"
เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ทำวงการกู้ภัยสูญเสีย "บุญฤทธิ์ ทองเกิด" ประธานมูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ หลังเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มเสียชีวิต ขณะช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่สงขลา

จากการสอบสวนพบว่า ขณะนายบุญฤทธิ์ กำลังตั้งศูนย์ประสานงานกู้ภัยสว่างเขต 10 ณ ค่ายลพบุรีราเมศวร์ อำเภอเทพา ได้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มจนหมดสติ แม้ทีมกู้ชีพจะทำ CPR หลายครั้ง และนำส่งโรงพยาบาล แต่เพราะเส้นทางถูกตัดขาดจากน้ำท่วม ทำให้การเดินทางลำบาก และนายบุญฤทธิ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ขณะที่เฟซบุ๊กอาสากู้ภัยต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่ พากันโพสต์ไว้อาลัย โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

"บิณฑ์" ประชาสัมพันธ์ ทำสร้อยพระตก
ขณะที่ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ หนึ่งในทีมอาสากู้ภัยฯ ที่ลงพื้นที่ไปช่วยชาวบ้าน โพสต์ตามหาของที่มีคุณค่าทางจิตใจ หลังลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมในจังหวัดยะลา

โดยในโพสต์ระบุว่า "เมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณเวลา 5 ทุ่ม ได้ทำภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่ ได้เปิดรถ เพื่อเปลี่ยนเสื้อที่เปียก แต่อาจเป็นเพราะเสื้อคอกลม-คอเต่า ทำให้สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง หลุดออกไปจากคอ ตอนนั้นไม่รู้สึกว่าสร้อยคอหายไป รู้สึกอีกทีก็เกือบถึงปัตตานีแล้ว เลยแจ้งกู้ภัยที่ยะลาตามหา แต่ไม่มีผู้ใดพบเห็น อยากจะรบกวนทุกท่านที่อยู่บริเวณบนสะพานตรงที่น้ำท่วม และทำภารกิจกันเมื่อคืนนี้ ถ้าใครพบเจอสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ ขอความกรุณาเอาพระมาคืนด้วยครับ ส่วนสร้อยคอ ผมยินดีที่จะให้ไป ผมขอพระคืน เพราะมีคุณค่าทางจิตใจของผมครับ ผมพยายามหารูปถ่ายของพระกับสร้อย หาไม่มีครับ ถ้าท่านใดเจอ กราบขอบพระคุณมาก ผมขอแค่พระครับ"

ดรามา ! ชาวบ้านไล่ทหารช่วยน้ำท่วม
ขณะที่โลกโซเชียลแห่แชร์คลิป ชาวบ้านโวยทหาร หลังขับรถเข้าไปช่วยเหลือ ทำน้ำพัดข้าวของพัง

เหตุการณ์นี้ชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วม ถ่ายไว้จากชั้น 2 ของบ้าน พร้อมตะโกนไล่รถทหารที่พยายามขับเข้าไปช่วยเหลือ ในคลิปเป็นการตำหนิเรื่อง "ขับรถเร็ว" ทำให้น้ำพัดข้าวของในบ้านพัง คลิปนี้ถูกโพสต์ใน Tiktok พร้อมตั้งคำถามว่า "คิดว่าใครผิดใครถูกเหรอครับ"

ขณะที่โลกโซเชียลเสียงแตก 2 ฝ่าย แต่ส่วนใหญ่อยากให้ใจเย็น ๆ กัน เพราะในยามสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือกัน ถึงจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้

น้ำท่วมโรงพยาบาลหนองจิก จ.ปัตตานี
ขณะเดียวกันในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ก็อ่วมไม่แพ้กัน เมื่อช่วงประมาณ 04.00 น.ที่ผ่านมา น้ำไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลหนองจิก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพคนไข้ โดยการใช้เรือขนย้าย จนช่วง 07.00 น. ทหารได้ลงพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลือแล้ว

ประกาศปิด 4 โรงพยาบาล
นอกจากโรงพยาบาลหนองจิกแล้ว ยังมีโรงพยาบาลยะหริ่ง, โรงพยาบาลทุ่งยางแดง และโรงพยาบาลแม่ลาน ถูกน้ำไหลเข้าท่วม จนต้องประกาศปิดชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง เนื่องจากทั้ง 4 โรงพยาบาล เป็นพื้นที่ติดแม่น้ำทั้ง 2 สาย คือ แม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมสูงของปัตตานี

นายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า โรงพยาบาลทั้ง 4 แห่ง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้ว มีการตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ต้องย้าย รวมถึงส่งหมอและพยาบาล เพื่อเข้าตรวจเยี่ยมผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาที่โรงพยาบาลได้

ทั้งนี้ พื้นที่ 12 อำเภอ ถูกประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ อำเภอที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ อำเภอยะรัง, อำเภอแม่ลาน, อำเภอทุ่งยางแดง, อำเภอหนองจิก, อำเภอมายอ, อำเภอไม้แก่น และอำเภอโคกโพธิ์ รวม 39 ตำบล 194 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 28,969 คน

เหยื่อน้ำท่วมใต้ เสียชีวิตแล้ว 3 ราย จ.ปัตตานี
ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดยะลา รวมเป็น 3 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายอายุ 1 ขวบ ที่พลัดจมน้ำในพื้นที่อำเภอเมือง ส่วนอีก 2 ราย เป็นผู้สูงอายุที่พลัดตกน้ำ และถูกไฟฟ้าช็อตในพื้นที่อำเภอยะรัง