หลอน! เพลิงไหม้ปริศนาในโลงเย็น

View icon 133
วันที่ 29 พ.ย. 2567 | 16.08 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เป็นเรื่องราวชวนขนลุกหลัง นายบรรหาญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากสัปเหร่อ และพระที่วัดราษฎร์เจริญศรัทธาธรรม ว่าเกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้น เมื่อมีไฟปริศนาลุกไหม้ขึ้นในโลงเย็น หลอนถึงขั้นสัปเหร่อ 2 คน นอนเฝ้าศพไม่ได้

ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถาม นายภาคภมูิ และ นายชโลธร สองมัคนายก และสัปเหร่อ พร้อมพาไปดูโลงเย็นต้นเหตุ ที่ยังพบร่องรอยเขม่าดำ ทั้งคู่เล่าว่า ช่วงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ภรรยาของชายชาวเมียนมา อายุ 38 ปี เข้ามาติดต่อตั้งสวดอภิธรรมศพที่วัด จะมีการตั้งสวดอภิธรรมศพจำนวน 3 คืน คืนแรกที่ตั้งสวดศพ ภรรยาผู้ตายมานอนเฝ้า ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

จนคืนวันที่ 2 (27 พ.ย.) ภรรยาไม่ได้มานอนเฝ้า ก็เริ่มเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด เหตุการณ์แรกเกิดไฟไหม้บริเวณดอกไม้แห้ง ตอนแรกคิดเชิงวิทยาศาสตร์ ว่าอาจเกิดความร้อนกับหลอดไฟที่ประดับประดาหน้าหีบศพ จึงมีการดับไฟที่ไหม้และได้ถอดปลั๊กไฟ ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กไฟโลงเย็นและปลี๊กไฟที่เสียบประดับประดาหีบศพ

ต่อมาเหตุการณ์ที่ 2 ก็เกิดไฟลุกไหม้บริเวณดอกไม้แห้งจุดเดิมขึ้นอีกครั้ง ซึ่งตนและทางผู้ช่วยก็ช่วยกันดับไฟและทำความสะอาด จากนั้นก็จะกลับมานอนหัวยังไม่ถึงหมอน ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ภายในโลงเย็น ขึ้นถึง 2 ครั้งติดกัน แล้วก็มีเหตุการณ์โยนพาน โยนเหยือกน้ำ ซึ่งเป็นที่กรวดน้ำอีกถึง 5 ครั้ง ซึ่งหากจะถามตนว่าตนรู้สึกกลัวไหม ตนไม่รู้สึกกลัว เพราะตนทำอาชีพนี้มาถึง 30 ปี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น หากมีการจุดธูปขอขมาก็จะจบไป เหตุการณ์นี้ถือว่าร่ำไรจุดธูปขอขมาแล้วก็ยังไม่ยอมจบ ซึ่งตอนนั้นเวลา 03.00 น. ตนคิดว่าคงจะนอนที่ศาลาธรรมสังเวชไม่ได้แล้ว จะย้ายไปนอนที่ศาลาการเปรียญ ซึ่งก่อนที่จะไปตนก็ได้มีการท้าทายกับวิญญาณหนุ่มพม่า รายนั้นว่าหากเฮี้ยนจริงให้ล้มดอกไม้ที่อยู่หน้าหีบศพให้หมด หรือ เฮี้ยนจริงให้ตามไปที่ศาลาใหญ่ ซึ่งตนก็พูดทีเล่นจริง ๆ ขอช่วงรุ่งสางประมาณ 06.00 น. ก็กลับมาดูที่ศาลาธรรมสังเวชก็พบว่าดอกไม้ที่ตั้งบริเวณหน้าหีบศพล้มจริงอย่างที่ตนท้าทาย หลังจากนั้นก็ได้นิมนต์พระมาทำพิธีให้ครบตามวาระ คนก็ได้กลับไปอาบน้ำที่บ้าน

พอกลับมาที่ศาลาทางลูกน้องของตนแจ้งว่าไฟได้ลุกไหม้ที่บริเวณดอกไม้อีกแล้ว ตนถึงได้ถามว่าแล้วได้เปิดพัดลมไล่ควันออกจากศาลาหรือยัง ยังเห็นมีควันอยู่ในศาลาอยู่พอเข้าไปดูก็พบว่าไฟได้ลุกไหม้บริเวณหัวผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในโรงเย็นขึ้นอีกครั้ง ตนจึงคิดว่าทางผู้ตายคงอยากจะไปแล้ว จึงได้แจ้งทางภรรยาและญาติของผู้เสียชีวิตให้ดำเนินการฌาปนกิจศพในช่วงเวลา 10:00 น. ของวันนั้นเลย ซึ่งตามเวลาที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจจริง ๆ จะเป็นเวลา 15:00 น. โดยคิดที่ปรากฏช่วงที่ไฟไหม้ในช่วงเช้านั้นทางภรรยาและญาติของผู้เสียชีวิตก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง