เช้านี้ที่หมอชิต - ศัตรูที่เป็นอสรพิษ ไม่น่ากลัวเท่ามิตรใกล้ตัว เมื่อจู่ ๆ ลูกจ้างที่ไว้ใจ คอยให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน กลับทรยศหักหลัง แอบเอารถโม่ปูน 30 กว่าคัน ไปขาย เจ็บจนจุก เพราะเสียหายไปกว่า 20 ล้านบาท
ป้าติ๋ม อายุ 73 ปี พร้อมด้วยลูกชายและลูกสาว เข้าขอความช่วยเหลือกับทีมข่าว เล่าให้ฟังว่า ตนเปิดทำธุรกิจเกี่ยวกับรถโม่ปูนมานานกว่า 38 ปี เคยมีรถโม่ปูนมากสุด 280 คัน กำไรที่ได้มาจะแบ่งไปดูแลหมา แมวจรจัด กว่า 3,000 ตัว ระหว่างที่ทำธุรกิจอยู่นั้น ตนมีลูกจ้างที่สามีไว้ใจคนหนึ่งชื่อว่า นายกิติกร หรือ อั๋น อายุ 45 ปี คอยดูแลกิจการทุกอย่าง
ต่อมาปี 2564 ได้มีบริษัทแห่งหนึ่งได้ติดต่อมา พร้อมกับถามว่า สนใจที่เอารถไปวิ่งงานคอนกรีตเพิ่มหรือไม่ โดยที่บริษัทนี้จะเป็นผู้รับงานให้ แต่สามีของตนก็ปฏิเสธไป ซึ่งเรื่องนี้ นายอั๋น ก็รู้ดีทุกอย่าง จึงไปเปิดบริษัทขึ้นมาเองเพื่อรับงาน ทั้ง ๆ ที่ยังเป็นลูกจ้างของสามีตนอยู่ จากนั้นสามีของตนก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ระหว่างนี้ นายอั๋น ก็เป็นผู้ดูแลกิจการทั้งหมด
จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีคนโทรมาหาตนบอกว่า ได้ซื้อรถโม่ปูนจาก นายอั๋น ในราคา 400,000 บาท แต่ไม่สามารถต่ออายุทะเบียนรถได้ เพราะชื่อผู้ครอบครองยังเป็นชื่อเดิม จะขอซื้อเล่มทะเบียนต่อในราคา 50,000 บาท แต่ตนก็ไม่ได้ขายให้ไป พร้อมทั้งรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
จึงรีบโทรศัพท์สอบถาม นายอั๋น ก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ อ้างเพียงแค่ว่า รถจอดเสียอยู่ที่อื่น ทำให้ตนตัดสินใจแจ้งความไว้ที่ สภ.ระเบาะไผ่ จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง พร้อมคัดค้านการประกันตัว ทำให้ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที
แล้วทำไมถึงมาขอความช่วยเหลือกับผู้สื่อข่าว นั่นก็เพราะเคยให้ข้อมูลตำรวจไปหมดแล้วว่ารถแต่ละคันอยู่ที่ไหน แต่ตำรวจก็ไม่สนใจ ไม่ขยายผลถึงผู้ร่วมกระทำผิด เพราะคนที่รับซื้อไปยังมี นายยักษ์ และ นายนัท แต่เอาผิดแค่ นายอั๋น คนเดียว จึงสงสัยว่าทำไมคนที่ซื้อไปทำไมถึงไม่ถูกดำเนินคดีฐานรับของโจร
