ชายวัย 50 เมาเหล้า เมายา ซิ่งกระบะชนท้าย จยย.ดับ 3 ศพ

ชายวัย 50 เมาเหล้า เมายา ซิ่งกระบะชนท้าย จยย.ดับ 3 ศพ

View icon 304
วันที่ 2 ธ.ค. 2567 | 07.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พี่สาววัย 22 ปี ขี่ จยย.พาน้องชายวัย 6 ขวบ และ 7 ขวบ มาซื้อขนมก่อนไปช่วยพ่อแม่ทำสวน เคราะห์ร้าย! เจอชายวัย 50 เมาเหล้า เมายา ซิ่งกระบะชนท้าย จยย.ดับ 3 ศพ หลังเกิดเหตุคนขับกระบะ โบกซาเล้งชสวบ้านหลบหนี แต่ตำรวจไปตามตัวได้ และผมตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ สูง 127 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และทำการตรวจสารเสพติด พบว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ประเชิญ อุ่นแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ รับแจ้งเหตุรถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 1 คน ที่ถนนบ้านห้วยจันทร์ – บ้านน้ำมุด หมู่ 4 แยกซำปีกา ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา เสียหลักอยู่ข้างทาง และชนกับต้นยางพารา สภาพรถกระโปรงหน้าพังยับ ชิ้นส่วนรถกระบะกระจายทั่วบริเวณ คนขับทราบชื่อภายหลังคือ นายลำพึง อายุ 50 ปี หลังเกิดเหตุเจ้าตัวได้หลบหนีไป ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง-ขาว สภาพรถพังยับเยิน และร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คน ทราบชื่อ คือนางสาวภัทรารัตน์ อายุ 22 ปี และ เด็กชายวรพลอายุ 6 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อ คือ เด็กชายณัฐพัฒน์ อายุ 7 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำตัวส่งโรงพยาบาลขุนหาญ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น รถกระบะและรถจักรยานยนต์ ขับมาในทิศทางเดียวกัน จากนั้นเมื่อถึงทางแยก รถจักรยานยนต์ได้จอดรถ เพื่อที่จะเลี้ยวขวา แต่ปรากฏว่ารถกระบะ ได้พุ่งเข้ามาชนกับรถจักรยานยนต์ ก่อนร่างของทั้ง 3 คน กระเด็นโดยที่ นางสาวภัทรารัตน์ ผู้เสียชีวิต และเด็กชายวรพล ผู้บาดเจ็บ กระเด็นไปอีกฝั่ง ส่วนร่างเด็กชายวรพล นั้น ถูกกระบะเหยียบทับร่างติดอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ นายลำพึง คนขับรถกระบะได้อาศัยรถซาเล้งชาวบ้าน แล้วหลบหนีไป

ต่อมาผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่โรงพยาบาลขุนหาญ เพื่อสอบถามข้อมูลกับ นายแสงระวี อุ่นแก้ว อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็กชายวรพล ที่อยู่ในอาการเศร้า เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นางสาววรารัตน์ กำลังเรียน ปวส. ชั้นปีที่ 2  วิทยาลัยการอาชีพขุนหาญ เด็กชายวรพล กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ส่วนเด็กชายณัฐพัชร์กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ โดยผู้ตายทั้ง 3 คน ได้ขี่จักรยานยนต์เพื่อมาซื้อขนมกิน โดยมีนางสาวภัทรารัตน์เป็นผู้ขับ ก่อนที่จะกลับไปช่วยตนทำสวนต่อ จนกระทั่งมาทราบเรื่องว่าถูกรถชนเสียชีวิต ตนจึงรีบมาดู และได้พูดคุยกับนายลำพึง คนขับกระบะ ซึ่งเจ้าตัวก็รับสารภาพเมาสุรา ก่อนที่จะมาเกิดเหตุในครั้งนี้ ซึ่งตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายอย่างเต็มที่

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งได่พบกับ นางสมจิตร ซึ่งชาวบ้านขายแตงโม และเห็นเหตุการณ์ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน เป็น เด็กผู้หญิง 1 คน และเด็กชาย 2 คน กำลังขับรถจักรยานยนต์มาจากซื้อของที่ร้านค้า กำลังจะเลี้ยวขวาเข้าไปตรงจุดรับซื้อยางพารา ซึ่งรถได้เปิดไฟเลี้ยว แต่อยู่ดีๆรถกระบะก็ขับมาจากด้านหลังด้วยความเร็วชนท้ายรถจักรยานยนต์เด็กทั้ง 3 คน ตอนแรกตนคิดว่ายางรถระเบิดพอหันไปมองเห็นรถชนกันอย่างจัง ตนและลูกจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ น้องผู้หญิง อายุ 22 ปี กับเด็กชาย อายุ 6 ปี เสียชีวิตคาที่ พอชนเสร็จคนขับรถกระบะลงมายืนดูแต่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร สักพักเห็นคนเยอะคนขับกระบะจึงหายตัวกลับไปบ้าน ก่อนที่ตำรวจจึงตามไปควบคุมตัวที่บ้าน เบื้องต้นตนรู้จักกับคนขับรถกระบะที่ชนดี เป็นคนชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และเป็นคนชอบขับรถเร็วแถวนี้จะรู้พฤติกรรม และรู้จัดกันดี

ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม นายลำพึง ผู้ขับกระบะคันก่อเหตุ ซึ่งกำลังอยู่ในอาการมึนเมา ได้พูดจาวกไปวนมา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้รับประทานอาหารและตั้งวงดื่มสุราขาวกับเพื่อน โดยจำไม่ได้ว่าดื่มหมดไปกี่ขวด หลังจากทานอาหารเสร็จ จนได้ขับรถออกมาเพื่อไปทำธุระ แต่ในขณะที่เกิดเหตุนั้น ตนไม่มีสติ และจำไม่ได้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหักที่บริเวณไหล่ขวา และขณะนี้ตนอยู่ในอาการเมามากจึงไม่สารมารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้

ทั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวและนำมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งผลการตรวจมีปริมาณ ถึง 127 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และทำการตรวจสารเสพติด พบว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง โดยในเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถในขณะเมาสุรา และเป็นผู้ขับขี่เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง