จนมุมแล้ว ตร.ดอนเมือง ร่วมกับสืบนครบาล 2 ตามรวบมือฆ่าทุบหัวชายเร่ร่อน แล้วใช้ใบกล้วยปิดอำพรางศพ สารภาพ วันเกิดเหตุเมา เห็นคนเร่ร่อนนอนหลับจึงใช้หินทุบ หวังจะกระทำชำเรา แต่ไม่สำเร็จ จึงทุบซ้ำอีกหลายครั้ง เพราะกลัวจะฟื้น ก่อนกลับไปใช้ชีวิตต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง กำลังฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆาตกรรมทุบหัวชายเร่ร่อนแล้วใช้ใบกล้วยปิดอำพรางศพ ย่านดอนเมือง เมื่อวันที่ 28 พ.ย. โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนพหลโยธินใต้สะพานกลับรถใกล้วินรถตู้ต่างจังหวัดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ หลังมีเบาะแสว่าคนร้ายหนีมากบดานอยู่แถวตลาด 200 ปี ปทุมธานี ก่อนนำกำลังปูพรมจนสามารถจับกุมได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยตนเองชื่อนายพิพัณ์ จากการตรวจสอบกลับไม่พบชื่อดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่มาทราบภายหลังว่าจริงๆแล้วไม่ได้มีชื่อตามที่กล่าวอ้าง แต่ชื่อนายฉลองรัฐ หรือปั๊ม หรือ ต๊ะ อายุ 36 ปี ชาวชัยบาดาล จ.ลพบุรี จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สน.ดอนเมือง
นายฉลองรัฐ หรือต๊ะ ยอมรับว่า วันเกิดเหตุตนเองกินเหล้าจนเมา แล้วเดินมาตามถนนไปเรื่อยๆเมื่อเดินมาถึงที่เกิดเหตุได้ปีนข้ามแบริเออร์แล้วไปเจอผู้ตายนอนหลับอยู่ จึงหยิบหินทุ่มไปที่หัว 1 ครั้ง จนแน่นิ่ง แล้วเดินไปสูบบุหรี่ก่อนจะเดินกลับมาใช่หินทุบไปที่เดิมอีก 1 ครั้ง แล้วได้ถอดกางเกงผู้ตายออกหวังที่จะกระทำชำเราแต่ไม่แข็ง เลยลากผู้ตายลงไปข้างทางแล้วพยายามจะทำชำเราเป็นรอบที่ 2 ก็ยังเหมือนเดิม เลยช่วยตัวเองจนสำเร็จในป่า ด้วยความกลัวว่าจะฟื้นขึ้นมาจึงใช้หินทุบไปที่เดิมอีกหลายครั้งจำไม่ได้ และตอนนั้นไม่ได้ดึงกางเกงผู้ตายกลับขึ้นมา ก่อนจะเดินไปดึงใบกล้วยที่อยู่เลยจากจุดเกิดเหตุมาจำนวน 3 ใบ มาปิดศพไว้เพื่ออำพรางคดีให้คิดว่าเป็นการข่มขืนแล้วฆ่า แทนที่จะเป็นการจงใจที่จะมาฆ่า
หลังก่อเหตุได้เดินกลับมาที่สถานีรถไฟการเคหะฯ เพราะเป็นที่พักประจำและได้ไปเจอลุงคนหนึ่งซึ่งเขาพูดไม่ได้เพราะเจาะที่คอ ไม่เคยรู้จักมาก่อนรู้แค่ว่าจะไปทางเดียวกันจึงพากันขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีรถไฟฟ้าการเคหะฯ โดยลุงเขามีบัตรคนพิการจึงไม่เสียเงินแต่ตนเองต้องไปเสียเงินซื้อตั๋ว เมื่อมาถึงสถานีรถไฟรังสิตก็ได้ลงลิฟมาชั้นล่าง ก่อนจะแยกย้ายกันไป นับจากวันนั้นตนเองก็อาศัยเก็บของเก่าขอเงินซื้อเหล้ากิน ใช้ชีวิตไปวันๆ ก่อนมาถูกจับ ส่วนชุดที่ตนเองใส่ดูคล้ายลูกจ้างร้านอาหารนั้นตนเองเก็บมาจากถังขยะไม่ได้มารับจ้างหรือทำงานใดๆ ยอมรับว่าไม่เคยรู้จัก หรือโกรธแค้นอะไรกับผู้ตายมาก่อน ตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม และทำเพียงคนเดียว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นอำพรางศพ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายฉลองรัฐ หรือต๊ะ
- ปี 49 ถูกจำคุกในคดีฆ่าบุพการี พ้นโทษปี 59
- ปี 60 ถูกจำคุก ในคดีร่วมกันซิงทรัพย์ในเคหสถานเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง พ้นโทษ ปี 64
- ปี 65 ถูกจำคุกในคดีทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัส และเพิ่งพ้นโทษมา ปลายปี 66 ก่อนจะมาก่อเหตุลงมือฆาตกรรมชายเร่ร่อนเสียชีวิตในครั้งนี้