วิธีแก้ปัญหา สแกนหน้าไม่ผ่าน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิด 3 ขั้นตอนทำอย่างไร ชัดวงเงินในบัตรฯ ถอนเงินสดได้หรือไม่
กรณีของพระรูปหนึ่งนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาซื้อของที่ร้านค้า ปรากฏว่าพระสแกนหน้าไม่ผ่าน สุดท้ายเลยให้โยมใช้เทปดำพันสายไฟตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ติดเป็นคิ้วปลอมให้ แล้วสแกนใบหน้าอีกรอบ ปรากฏว่าสแกนใบหน้าผ่านด้วยความช่วยเหลือจากญาติโยม จนกลายเป็นไวรัล ยอมทำทุกอย่าง เพื่อเงิน 300 บาท
อ่านข่าว : ยอมทุกอย่าง เพื่อเงิน 300 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมบัญชีกลาง ได้กำหนดวิธีการรับชำระค่าสินค้าและบริการ ด้วยวิธีการสแกนใบหน้าควบคู่กับการใส่รหัสคู่บัตร 6 หลัก เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.67 ที่ผ่านมา
โดยผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐที่ไปใช้สิทธิที่ร้านค้า หรือผู้ประกอบการที่รับชำระค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกดรหัสคู่บัตร PIN 6 หลัก และให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการสแกนใบหน้าทุกครั้ง ยกเว้นกลุ่มผู้มอบอำนาจให้ดำเนินการแทน เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่เดินทางไปยืนยันตัวตนเองไม่ได้ และกลุ่มผู้ที่สแกนใบหน้าไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตน (e-KYC)
อ่านข่าว : เช็ก! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐธันวาคม67 ได้กี่บาท ก่อนเปิดลงใหม่
โดยกรมบัญชีกลางได้ชี้แจงเหตุผลที่ต้องสแกนใบหน้า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้สิทธิโดยไม่ได้รับความยินยอม เนื่องจาก กรมบัญชีกลาง ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคลังในหลายจังหวัด ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมาก
วิธีแก้ไข กรณีสแกนหน้าไม่ผ่าน
ส่วนกรณีที่สแกนไม่ผ่าน อาจจะเกิดจากมีแสงสว่างมากเกินไป ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหา ที่ไม่สามารถสแกนใบหน้าผู้มีสิทธิได้ กรมบัญชีกลางได้แนะนำวิธีแก้ไข โดยให้ร้านค้าดำเนินการดังนี้
อ่านข่าว : วิธีแก้ปัญหา สแกนหน้าไม่ผ่าน! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำตามนี้
1.ขอให้ผู้มีสิทธิ ยืนตำแหน่งของร้านค้า ที่มีแสงสว่างเหมาะสม ไม่ยืนย้อนแสง ไม่มีเงาตกกระทบบนใบหน้า
2.ให้ผู้มีสิทธิถอดแว่นตา หมวก หน้ากากอนามัยออก เก็บผมไว้หลังใบหูขณะทำรายการ
3.ให้ใบหน้าผู้มีสิทธิอยู่ในกรอบ มองตรง ไม่เอียงศีรษะ ไม่ขยับหน้าไปมา
อย่างไรก็ตาม วงเงิน 300 บาทนั้น เป็นวงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค รัฐบาลช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 300 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งวงเงินจำนวนนี้ ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป