อิสราเอล-กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โจมตีใส่กันอีกรอบ หลังต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ที่เพิ่งบรรลุข้อตกลงหยุดยิงไปไม่ถึง 10 วันที่ผ่านมา
วันนี้ (3 ธ.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอล เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด ความหวังที่อยากเห็นสันติภาพเริ่มลดลง หลังจากทั้งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอล ต่างกล่าวหากันและกันว่า ต่างฝ่ายต่างละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
โดยอิสราเอลยังคงปฏิบัติการโจมตีทางทหารใส่เมือง ทาลูซา (Talousa) และเมืองฮาริส (Haris) ทางตอนใต้ของประเทศเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และบาดเจ็บ 3 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางการเลบานอนรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 คน จากการโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่อื่น ๆ ทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในวันนี้เป็น 11 คน ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์อ้างว่า ได้โจมตีเป้าหมายทางทหารของอิสราเอล
ทาง “นาบีห์ เบอร์รี” ประธานรัฐสภาเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เจรจาการหยุดยิงในนามของเลบานอน กล่าวว่า เบรุตบันทึกการละเมิดการหยุดยิงของอิสราเอลได้อย่างน้อย 54 ครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 67
ขณะที่ “เบนจามิน เนทันยาฮู” นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล อ้างเช่นกันว่า จะใช้ความรุนแรงตอบโต้การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และปฏิเสธว่าอิสราเอลไม่ได้ทำอะไรผิด และอ้างว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ขนย้ายอาวุธมายังตอนใต้ของแม่น้ำลิทานี ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ทั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าวห้ามไม่ให้อิสราเอลปฏิบัติการทางทหารเชิงรุกในเลบานอน ในขณะเดียวกันก็กำหนดให้เลบานอนป้องกันไม่ให้กลุ่มติดอาวุธ รวมถึงฮิซบอลเลาะห์ โจมตีอิสราเอล
