เช้านี้ที่หมอชิต - วิบากกรรม "ทนายตั้ม" ยังไม่จบ ถูกแจ้งอีก 7 ข้อหา คดีฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาท "มาดามอ้อย" ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าตัวยังไม่ยอมรับ ขอให้การปฏิเสธสู้คดีนี้ต่อ ขณะที่ตำรวจเชื่อว่าจะมีคนที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก
ฟันเพิ่ม 7 ข้อหา ทนายตั้ม โกง มาดามอ้อย
เรื่องการแจ้งข้อหาเพิ่มนี้ก็ได้รับคำยืนยันมาจาก ผู้บังคับการปราบปราม ที่บอกว่าเมื่อ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน เข้าไปแจ้งข้อหากับทนายตั้ม คดีร่วมกันฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาท "มาดามอ้อย" รวมทั้งหมด 7 ข้อหา ซึ่งความผิดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ การฉ้อโกง, แจ้งความเท็จ, นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และฟอกเงิน แต่ทนายตั้มยังคงปฏิเสธ อ้างว่ามีพยานหลักฐานชี้แจงข้อกล่าวหาได้
ส่วน นายนุวัฒน์ หรือ นุ และนางสาวสารินี หรือ แซน คนสนิทของทนายตั้ม พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาตามลำดับ ซึ่งคืบหน้าคดีนี้ก็ไปกว่า 80% แล้ว ก็จะเร่งดำเนินการ เพื่อให้ทันฝากขังผู้ต้องหาผัดที่ 3 หรือ 4 เชื่อว่าคดีนี้อาจมีผู้ถูกดำเนินคดีเพิ่ม ส่วนประเด็นพินัยกรรมไม่มีการร้องทุกข์ จึงไม่อยู่ในสำนวน
พ่ออดเยี่ยม สามารถ ฝากทนายเตือนลูกให้กลับมากินข้าว
ส่วนคดีของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่มีผู้เสียหายแจ้งความว่า ถูกกรรโชกทรัพย์ ประมาณ 400,000 - 500,000 บาท อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ความเป็นธรรม
ซึ่งวานนี้ "พ่อ" ของนายสามารถ ได้เข้าเยี่ยมลูกชาย เป็นครั้งแรก ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังพ้นช่วงกักตัวตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 ก่อนเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ
แต่คนที่พูดแทนก็คือ ร้อยเอก ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความนายสามารถ บอกว่าทั้งพ่อ แม่ ของลูกความยังไม่ได้เข้าเยี่ยม เพราะไม่มีชื่อในระบบ จึงฝากความเป็นห่วงผ่านตนไปให้แจ้งแทน ซึ่งนายสามารถก็เป็นห่วงพ่อ เพราะอายุเยอะ ป่วยหลายโรค โดยเฉพาะโรคหัวใจ ยืนยันว่า รายชื่อญาติที่นายสามารถระบุไว้กับเรือนจำฯ มีพ่อ, แม่ และคนใกล้ชิด รวม 3 คน ไม่มีนักการเมืองในรายชื่อ
ส่งคำให้การ บอส ดิไอคอนกรุ๊ป ต่อ ดีเอสไอ ครบแล้ว
ด้านทนายวิฑูรย์ ที่ไปเยี่ยมบอสดิไอคอนกรุ๊ปในเรือนจำเหมือนกัน หลังนำเอกสารไปส่งให้ DSI ตรวจสอบตามที่ขีดเส้นตายไม่เกิน 3 ธันวาคมว่า แม้จะไม่ได้สอบพยานทั้งหมดที่เตรียมไว้ แต่ก็ให้พนักงานสอบสวน พยายามสอบพยานให้มากที่สุดไปแล้ว และ ยืนยันทำธุรกิจไม่ใช่แชร์ลูกโซ่