ต้มยำกุ้ง ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมฯ

View icon 27
วันที่ 4 ธ.ค. 2567 | 16.02 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ประกาศรับรองให้ "ต้มยำกุ้ง" ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ตามที่ประเทศไทยเสนอ

"ต้มยำกุ้ง" ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมฯ
ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ณ กรุงอะซุนซิออน สาธารณรัฐปารากวัย มีมติรับรองให้ "ต้มยำกุ้ง" ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

ทั้งนี้ ข้อมูลในเว็บไซต์ของยูเนสโก กล่าวถึงต้มยำกุ้งว่า เป็นอาหารแบบดั้งเดิมของประเทศไทย โดยกุ้งจะถูกนำไปต้มกับสมุนไพร และปรุงรสด้วยเครื่องปรุงท้องถิ่น น้ำซุปมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมีสีสันสดใส และผสมผสานรสชาติได้หลากหลาย เช่น รสหวาน เปรี้ยว เผ็ด มัน และขมเล็กน้อย เชื่อกันว่าอาหารจานนี้ช่วยส่งเสริมพลังงานและสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมภูมิปัญญาการทำอาหารของชุมชนชาวพุทธ ที่อาศัยริมแม่น้ำในภาคกลางของประเทศไทย และความรู้ดั้งเดิมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและสมุนไพร

ที่ผ่านมาประเทศไทย มีรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากยูเนสโกแล้ว จำนวน 4 รายการ ได้แก่ โขน, นวดไทย, มโนราห์ และประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทย โดย ต้มยำกุ้ง จะถือเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้รายการที่ 5 ของไทย

นายกฯ เชิญชวนทั่วโลกกิน "ต้มยำกุ้ง"
ด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีผ่านระบบวีดิทัศน์ ว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติในโอกาสพิเศษนี้ ในนามของรัฐบาลไทยและคนไทยทั้งประเทศ ขอขอบคุณสาธารณรัฐปารากวัย สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ในครั้งนี้ รวมถึงคณะกรรมการฯ ที่ได้ขึ้นทะเบียนให้ "ต้มยำกุ้ง" เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต้มยำกุ้งจึงเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ไทย

ร้านอาหารสุดปลื้ม "ต้มยำกุ้ง" ขึ้นมรดกโลก จ.ชัยนาท
ล่าสุดมีเสียงเฮดัง ๆ จากคนไทย และผู้ประกอบการร้านอาหารไทยทั่วประเทศ เช่นร้านอาหารที่จังหวัดชัยนาท บอกว่ารู้สึกดีใจและตื่นเต้นจนใจสั่น เมื่อทราบข่าวนี้ เพราะตนเองอยู่กับเมนูต้มยำกุ้งมาตั้งแต่เปิดร้านอาหาร เมื่อกว่า 30 ปีก่อน คาดว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป น่าจะมียอดขายขยับไปอย่างน้อย 2 เท่าตัวต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งทางร้านจะรีบทำป้ายไวนิลการประกาศเชิดชูต้มยำกุ้งของยูเนสโก มาติดหน้าร้าน เพื่อเป็นความภาคภูมิใจในฐานะคนไทย และคนประกอบกิจการร้านอาหารด้วย

ผู้สื่อข่าวยังลงพื้นที่สอบถามแม่ค้าร้านอาหารใน กทม. ส่วนใหญ่รู้สึกดีใจ โดยเฉพาะ นางกอบกุล สุขุมาลจันทร์ แม่ค้าอาหารตามสั่ง มั่นใจว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวจะต้องแห่สั่งเมนูนี้เพิ่มมากขึ้นแน่นอน เพราะอร่อยครบรส จึงอยากชวนให้สั่งเมนูนี้กันมากขึ้น และส่วนตัวมองว่าเมนูต่อไปที่ควรขึ้นทะเบียนมรดกโลก คือ ผัดกะเพรา เพราะอาหารไทยจานนี้เด็ดจริง ๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง