พลังศรัทธา ปชช.ชาวไทย หลั่งไหลเข้าสักการะ “พระเขี้ยวแก้ว” ตั้งแต่เช้าวันแรก ที่ท้องสนามหลวง
(5 ธ.ค.67) บรรยากาศวันแรกที่ท้องสนามหลวง ที่รัฐบาล เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่รัฐบาลไทยได้อัญเชิญมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568
บรรยากาศในช่วงเช้า มีประชาชน ต่างหลั่งไหลเข้ามาสักการะพระเขี้ยวแก้ว พร้อมกับสวมเสื้อสีเหลือง และสีขาว เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์
โดยประชาชนส่วนใหญ่ต่างรู้สึก ปราบปลื้มและดีใจ ที่ได้มีโอกาสเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) และถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธ เนื่องจาก ประชาชนชาวไทยต่างศรัทธาในพระพุทธเจ้า ถือว่ามีบุญอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้ามาสักการะในครั้งนี้ ซึ่งโอกาสที่จะได้เข้ามาทำบุญเช่นนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยาก และเมื่อปีที่แล้วก็มีโอกาสได้เข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากประเทศศรีลังกาด้วย
ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 7HD ว่า ขอเชิญชวนชาวไทยเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพราะเมื่อได้เข้ามาสักการะแล้วทำให้เรารู้สึกปลื้มปิติ การงานต่าง ๆ ก็ลุล่วงไปด้วยดี
ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ไปจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 รวมทั้งสิ้น 73 วัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. - 20.00 น.
