เวลา 14.40 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายเกรียงไกร ประพฤทธิกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ยู.เค.เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และนางสาวอมรรัตน์ จันทบูลย์ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินสมทบทุนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สำหรับใช้ในกิจกรรมการแสดงโขนของมูลนิธิฯ
เวลา 14.55 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทวมหาเถร) โดยเมื่อปี 2556 พระพรหมวชิรมุนี เจ้าอาวาส วัดสุทัศนเทพวราราม ขณะดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส ดำริให้บูรณปฏิสังขรณ์ตำหนักคณะ 6 วัดสุทัศนเทพวราราม เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับพระอาราม ตำหนักแห่งนี้เดิมเป็นกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส เมื่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (แพ ติสสเทวมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงดำรงแหน่งเจ้าอาวาส ได้ประทับ ณ ตำหนักแห่งนี้ จนสิ้นพระชนม์ ในปี 2487 และยังเป็นโบราณสถานตามประกาศของกรมศิลปากร ทางวัดจึงหารือร่วมกับกรมศิลปากร บูรณปฏิสังขรณ์ตัวตำหนัก และจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ ในปี 2556 เริ่มจัดทำทะเบียนโบราณวัตถุภายในตำหนัก ซึ่งมีกว่า 20,000 รายการ แล้วเสร็จในปี 2558 จากนั้น ได้บูรณปฏิสังขรณ์ตัวตำหนักที่ประทับ และอาคารจัดแสดงอื่น แล้วเสร็จในปี 2567 รวม 11 ปี ใช้ทุนทรัพย์ที่ได้รับจากทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่ พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมสมทบ และจากการจัดสร้างวัตถุมงคล
การจัดพิพิธภัณฑ์ฯ คัดเลือกสิ่งของที่มีอยู่ในตำหนัก จัดเป็นหมวดหมู่เพื่อให้เป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุอันเป็นสมบัติของพระอาราม และพระพุทธศาสนาเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (แพ ติสสเทวมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ล้วนมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ แบ่งเป็น 5 ส่วนหลัก ได้แก่ โถงประทับ จัดแสดงพระประวัติ และบริขารส่วนพระองค์, หอพระกรรมฐาน จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญประจำพระอาราม, หอไตร จัดแสดงพัดยศ พัดรอง ย่าม สมัยต่าง ๆ, กุฏิเรือนแถวตะวันออก จัดแสดงเอกสารโบราณ ประเภทคัมภีร์ใบลานลายพระหัตถ์ สมุดไทย และหนังสือ และกุฏิเรือนแถวตะวันตก จัดแสดงเครื่องถ้วย เครื่องโต๊ะ และเครื่องมุก
สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทวมหาเถร) ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 12 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ระหว่างปี 2481-2487 ทรงมีพระปัญญาญาณอันลึกซึ้งในการแสดงธรรม ดังที่ปรากฏในบทพระธรรมเทศนาที่ทรงพระนิพนธ์ไว้ในคัมภีร์ใบลาน พระอัจฉริยภาพในการแปลความพุทธพจน์ หัวข้อธรรมในภาษาบาลีได้ประจักษ์แจ้ง เข้าใจง่าย ด้วยถ้อยคำภาษาที่ชัดเจน สละสลวย ละเอียด สุขุมลุ่มลึก พระกรณียกิจสำคัญขณะที่ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช คือ ทรงริเริ่มให้มีการแปลพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทย ทำให้มีพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับสมบูรณ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อันเป็นประโยชน์ในการศึกษาพุทธธรรมของพุทธศาสนิกชนชาวไทย นอกจากนี้ ยังทรงพระปรีชาในงานช่างทั้งการวาดลายและแกะสลัก ทรงสร้างงานพุทธศิลป์งดงามไว้มากมาย เช่น เครื่องบูชา พระพุทธรูป รวมทั้งพระกริ่ง