อาลัย ผิง ชญาดา นักร้องสาว เปิดโพสต์ข้อความสุดเศร้า อยากหาย อยากกลับไปทำงาน “อยากลุกขึ้นฟ้อนเด้ มาท้อแท้คัก” ทรมานมาก ๆ สำหรับคนอายุเพียงแค่ 20 กว่าปี
วันนี้ (8 ธ.ค.67) ข่าวการจากไปของ “ผิง ชญาดา” นักร้องสาวของค่ายรถแห่ โอปอมิวสิค อุดรธานี ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง อาการโคม่า จากการนวดบิดคอ ล่าสุดเช้าวันนี้แฟนเพลงได้รับแจ้งข่าวเศร้า น้องผิง ชญาดา จากไปแล้ว โดยเพจรถแห่ โอปอมิวสิค อุดรธานี ต้นสังกัดได้แสดงความอาลัยกับครอบครัว โดยระบุว่า รถแห่ปอได้สูญเสียนักร้องหญิงประจำรถแห่ไปโดยไม่มีวันกลับ เหลือไว้แค่ความทรงจำดี ๆ ขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว “บอส” ว่ามันเร็วเกินไป
ก่อนหน้านี้ ผิง ชญาดา พยายามแชร์เรื่องราวเพื่อเป็นอุทหรณ์ของการนวดบิดคอ ซึ่งเป็นอันตรายมาก ทำให้เสียทั้งเงิน ทั้งงาน และสุขภาพ แต่ในทุก ๆ โพสต์ ผิง ชญาดา ยังให้กำลังใจตัวเองว่า อยากรักษาหาย อยากกลับมาทำงาน พร้อมฝากผลงานเพลงให้แฟน ๆ ได้ติดตาม เป็นบทเพลง “ขอขมาลาโทษ” พร้อมบอกกับแฟนเพลงว่า อยากตอบแช็ต อยากตอบคอมเมนต์ทุกคน แต่หนูทำไม่ได้ขยับเป็นเกร็งตลอด นอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ
โดยโพสต์เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 ข้อความตอนหนึ่ง ผิง ชญาดา ได้แชร์อุทาหรณ์ไว้ว่า ก่อนไปนวด มีอาการปวดไหล่ ไปนวดครั้งแรก ตอนนวดเสร็จอาการเป็นปกติ ผ่านมา 2 วัน เริ่มปวดท้ายทอย หลังจากนั้นได้กินยาระงับปวด แต่เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ เริ่มมีอาการชาลงแขน จึงไปนวดกับหมอนวดคนเดิม และมีการนวดบิดคออีก เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ เริ่มปวดตึงมากจนนอนหงายคว่ำไม่ได้ จึงไปนวดอีกแต่เป็นหมอนวดคนใหม่ จากนั้นต้องกินยาเพื่อบรรเทาอาการมาตลอด กระทั่งแขนขวาเริ่มยกไม่ได้ อ่อนแรง เป็นประสบการณ์ที่แย่มาก ๆ ทรมานมาก ๆ สำหรับคนอายุแค่ 20 กว่าปี “อยากลุกขึ้นฟ้อนเด้ มาท้อแท้คัก”
ทางด้านแฟนหนุ่มของผิง ชญาดา ได้โพสต์อัปเดตอาการของผิง ชญาดา เป็นระยะๆ โดยบอกบว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 67 เสร็จจากงานแห่แล้ว ผิงบอกปวดหลัง ผมก็เลยพาไปนวด ใน จ.อุดรธานี พอนวดเสร็จก็เริ่มมีอาการชาไปครึ่งตัว ใช้งานแขนซ้ายไม่ได้ พอเวลาผ่านมาสักระยะ ก็เริ่มใช้งานไม่ได้ทั้งตัว จนถึงทุกวันนี้ ในใจอยากไปเอาผิดร้านนวด แต่ว่าไม่รู้ว่าหลักฐานจะเยอะมากพอหรือเปล่า ทั้งจำไม่ได้ว่านวดกับหมอคนไหน มันก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว
ระหว่างการรักษาในเดือน พ.ย.67 อาการของผิง ชญาดา ดีขึ้นบ้าง หมออนุญาตให้กลับบ้าน แต่ปรากฎว่าเมื่อกลับบ้าน ผิงอาการแย่ลง หายใจลำบาก ต้องนำตัวส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี ด่วน และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ พักรักษาในห้อง ICU ต่อมาพบว่าเกร็ดเลือดต่ำมาก จนต้องขอรับบริจาคเลือด กระทั่งเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.67) เวลา 06.08 น. น้องผิงได้จากไปแล้ว
