คอลัมน์หมายเลข 7 : สาวลึก ไร่ภูนับดาว รุกที่ดิน ส.ป.ก. กลุ่มทุน-ขรก. อยู่เบื้องหลัง ?

View icon 64
วันที่ 8 ธ.ค. 2567 | 16.23 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - การเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของไร่ภูนับดาว และออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ทับพื้นที่สวนป่า กำลังถูกตรวจสอบว่าเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน และคนใกล้ชิดนักการเมืองหรือไม่ (โดยในสัปดาห์นี้กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ) ติดตามได้จากคอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้

ไร่ภูนับดาว เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. กว่า 100 ไร่ นี่ถือเป็นการบุกรุกครั้งใหญ่ ที่เชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ เพราะที่ดินผืนนี้เป็นสวนป่า แม้จะประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินคลุมทั้งอำเภอมวกเหล็ก แต่ตามกฎหมายต้องกันเขตสวนป่าออก

โดยมีบันทึกข้อตกลง ในปี 2538 ระหว่างกรมป่าไม้กับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ไม่ให้ออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ในสวนป่า

แต่พบว่า ในปี 2557-2558 ภูนับดาว โดยกลุ่มทุน 5 คน กลับเข้าไปบุกรุก จนถูกตัดสินคดีจำคุก โดยโทษให้รออาญา

มีเพียง 1 คน ที่สู้คดี และสุดท้าย ศาลตัดสินจำคุก 6 เดือน ก่อนที่จะมีกลุ่มบุคคลเดิมกลับมาบุกรุกในพื้นที่อีกครั้ง

สอดคล้องกับข้อมูลของนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตอธิบดีกรมป่าไม้และอดีตเลขาธิการ ส.ป.ก. ที่พูดชัดเจนว่า ที่ตั้งของไร่ภูนับดาว ออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ไม่ได้

แต่มีขบวนการฉ้อฉลทางกฎหมาย เพื่อซิกแซกให้ได้ครอบครองสิทธิที่ดิน จึงค่อนข้างชัดเจนว่ามีกลุ่มบุคคลเป็นข้าราชการ และนายทุนเกี่ยวข้อง

ปัจจุบัน ภูนับดาว เปลี่ยนเป็น "ศูนย์การเรียนรู้เกษตรกรรม นวัตกรรมยั่งยืน ไร่ภูนับดาว"

ยืนยันได้รับอนุญาตให้เช่ากับสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี เนื้อที่ 3 ไร่เศษ และผู้ได้รับสิทธิ คือ เกษตรกร

นี่เป็นรายละเอียดในแถลงการณ์ที่ออกมา หลังจากผู้จัดการศูนย์การเรียนรู้ฯ ปฏิเสธให้ข้อมูลกับคอลัมน์หมายเลข 7 เพียงแค่ระบุว่า ข้อมูลที่สื่อมวลชนนำเสนอบิดเบือน

แต่ข้อมูลในทางลับที่เราได้รับ ทราบว่า ขณะที่มีการขออนุญาตจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ มีคนคัดค้าน แต่กลับถูกประธานในที่ประชุมตำหนิและไล่ออกจากการประชุม

ขณะที่นายก อบต.หนองย่างเสือ ระบุการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ฯ ผ่านมติสภา อบต. แล้ว แต่เมื่อเราขอดูมติสภา กลับถูกปฏิเสธ

คอลัมน์หมายเลข 7 จึงใช้สิทธิขอข้อมูลข่าวสารทางราชการ

ไร่ภูนับดาว ออกแถลงการณ์ไม่ทันข้ามวัน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ก็ออกแถลงการณ์ตามมาทันที ไล่ไทม์ไลน์การตรวจสอบชัดเจน

โดยแย้งว่าที่ดินผืนนี้ไม่ใช่สวนป่าของกรมป่าไม้ แต่ยอมรับว่า มีการใช้ประโยชน์ที่ดินผิดวัตถุประสงค์  แต่ระหว่างนี้ขอความร่วมมือให้หยุดประกอบกิจการ

ประเด็นนี้ อดีตเลขาธิการ ส.ป.ก.มองว่าเป็นการซูเอี๋ย

สัปดาห์นี้ กรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา จะเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้ข้อมูล และเตรียมลงพื้นที่ไปตรวจสอบ  ส่วนจะสาวถึงตัวการใหญ่ได้หรือไม่ ต้องคอยติดตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง