เช้านี้ที่หมอชิต - เรียกว่าเป็นภัยสังคม สาวโรงงานขี่รถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อน อยู่ ๆ ถูกชายปริศนาปรี่เข้ามาทำร้ายเธออย่างไม่มีเหตุผล และไม่รู้จักกันมาก่อน
หญิงผู้เสียหาย อายุ 31 ปี สุดงง ขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อน ถูกชายปริศนาขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบพยายามใช้เท้าถีบมาตลอดทาง
เมื่อถึงจุดผู้ก่อเหตุ ปรี่เข้ามาชกต่อยใบหน้าของเธออย่างแรงหลายครั้ง จนเธอเสียหลักล้มไปกองกับพื้น ถูกเตะเสยใบหน้าซ้ำ จนหงายหลัง
ส่วนเพื่อนของเธอเข้าไปห้าม ก็ถูกชกต่อย จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขี่รถหลบหนีไป เหตุเกิดภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สน.บางขุนนนท์ แต่คดียังเงียบ วานนี้ (8 ธ.ค.) จึงเข้าไปร้องทีมงาน "สายไหมต้องรอด" ให้ช่วยตามคดี และนี่เป็นร่องรอยความเจ็บปวดที่ผู้ก่อเหตุทิ้งเอาไว้ เธอถูกต่อยเบ้าตาซ้ายฟกช้ำอย่างหนัก ลูกตาอักเสบ ปากฉีก ตามตัวมีรอยเขียวช้ำ
ผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุ และไม่มีปัญหากันบนท้องถนน ช่วงนั้นเธอขี่รถมาช้า ๆ หลังถูกทำร้ายรู้สึกหวาดกลัว เพราะเธอต้องใช้ถนนเส้นนี้เดินทางเป็นประจำเพื่อไปทำงาน และไปส่งลูกอายุ 4 ขวบ ไปโรงเรียน
เคราะห์ดีที่วันนั้นมีเพื่อนพนักงานนั่งซ้อนท้ายไปด้วย จึงช่วยเหลือไว้ได้ทัน และหากวันนั้นไม่ใส่หมวกกันน็อก คงจะบาดเจ็บหนักมากกว่านี้
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เชื่อว่าตำรวจ สน.บางขุนนนท์ สามารถตามจับผู้ก่อเหตุได้แน่นอน เพราะมีหลักฐานภาพวงจรปิดชัด
นอกจากนี้ ได้พาผู้เสียหายไปติดต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ขอรับเงินเยียวยา เงินค่ารักษาพยาบาล ในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญา หากยังกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย ก็จะให้ยื่นคำร้องขอรับการคุ้มครองพยานจากกระทรวงยุติธรรม