สนามข่าว 7 สี - จะต้องมีอีกสักกี่ครอบครัวที่ต้องเจอกับความสูญเสีย เคสนี้เป็นอีกหนึ่งเคส ที่ลูกหลานต้องกลายเป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุ "เมาแล้วขับ"
บีบหัวใจคนเป็นพ่อ-แม่เหลือเกิน ที่ต้องมาเห็นเจ้าหน้าที่ลงไปเก็บศพลูกหลานที่ประสบอุบัติเหตุรถกระบะลงข้างทาง ทั้งคนขับและเด็กที่มาด้วย รวม 12 ชีวิต บาดเจ็บทั้งคันรถ แยกเป็นเสียชีวิต 2 คน คือ นายมาร์ค อายุ 16 ปี และเด็กชายบุญญฤทธิ์ หรือ น้องมิ๊คกี้ อายุ 14 ปี อาการบาดเจ็บปานกลางถึงสาหัส 5 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 5 คน
เด็กกลุ่มนี้ เพิ่งเสร็จจากการชนะเลิศแข่งขันฟุตบอล 7 คน ที่โรงเรียนบ้านดงตาจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และกำลังกลับบ้านมาฉลองแชมป์ โดยนั่งกันอยู่ท้ายรถกระบะของนางสาวกรรณิการณ์ 1 ในผู้ปกครองที่อาสารับ-ส่งเด็กกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำ กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ อำเภอคลองขลุง เป็นทางโค้ง ทำให้รถพุ่งตกลงไป
ยังไม่ทันที่ตำรวจจะสอบถามหาสาเหตุ ก็ต้องควบคุมตัวนางสาวกรรณิการณ์ทันที เพราะได้กลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั่วตัว เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์นำตัวเข้าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอร์ พบค่าสูงถึง 147 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ยิ่งทำให้บรรดาผู้ปกครองเป็นเดือดเป็นแค้นหนัก
ตำรวจต้องรีบคุมตัวออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับโรงพัก แต่ถูกกลุ่มผู้ปกครองขวางทางออกและพยายามรุมทำร้าย จนเกิดการชุลมุนกันขึ้น
ช่วงสายวานนี้ ครอบครัวของน้องมาร์ค และ น้องมิ๊คกี้ เดินทางไปรอรับศพลูกชาย ทุกคนยังไม่มีใครอยากพูดอะไร เพราะยังทำใจยากที่จะรับรู้การเสียชีวิตของลูกชายที่จากไปก่อนวัยอันควร
สำหรับศพน้องมาร์ค ครอบครัวรับกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ต่างอำเภอ ส่วนศพน้องมิ๊คกี้ จะเคลื่อนย้ายไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดมุจรินทร์ อำเภอคลองขลุง แล้ว
ก่อนที่จะรู้ข่าวการเสียชีวิตของน้องมิ๊คกี้ แม่เล่าว่า เหมือนลูกพูดเป็นลาง แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดเอะใจเลยว่าจะเป็นการเจอหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย
สำหรับเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ 9 คน ไม่นับรวมนางสาวกรรณิการณ์ ที่ถูกคุมตัวไปก่อนแล้ว แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว 4 คน อีก 5 คน แยกเป็นบาดเจ็บปานกลาง ต้องนอนพักฟื้น 3 คน และ 2 คน ยังอยู่ในห้องไอซียู
ส่วนนางสาวกรรณิการณ์ ขณะนี้ถูกแจ้ง 2 ข้อหา กระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย และขับรถขณะเมาสุราฯ