คืบหน้าสถานการณ์ซีเรีย หลังกลุ่มกบฏบุกยึดเมืองหลวง

หลังกลุ่มกบฏบุกยึดกรุงดามัสกัส ของซีเรีย รัสเซียยืนยันแล้วว่าอดีตประธานาธิบดี "อัสซาด" เดินทางเข้าไปลี้ภัยในรัสเซีย ขณะที่อิสราเอลและสหรัฐฯ อาศัยจังหวะนี้โจมตีทางอากาศเป้าหมายในซีเรีย

หลังเหตุการณ์กลุ่มกบฏฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (Hayat Tahrir al-Sham) หรือ เอชทีเอส (HTS) ที่ประกาศ "ปลดปล่อย" ประเทศซีเรีย จากการอยู่ใต้อำนาจของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad) ผู้นำเผด็จการที่ปกครองซีเรียมายาว หลายคนอาจเป็นกังวลถึงความเป็นอยู่ของคนไทยในซีเรีย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยืนยันแล้วว่า คนไทยในซีเรียทั้งหมด 23 คน ปลอดภัยดีและอยู่ระหว่างพิจารณาสถานการณ์ภายในซีเรียอีกครั้งก่อนตัดสินใจว่าจะเดินทางออกจากซีเรียหรือไม่

ส่วนสถานการณ์ภายในซีเรีย หลังมีรายงานว่าอดีตประธานาธิบดีอัสซาดเดินทางหนีออกนอกประเทศ ซึ่งรัสเซียออกมายืนยันในภายหลังว่า นายอัสซาด เดินทางเข้ามาลี้ภัยในรัสเซีย มีการเผยภาพขณะประชาชนจำนวนมากที่บุกเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดี และพากันรื้อข้าวของต่าง ๆ บางส่วนถึงขึ้นขนเฟอร์นิเจอร์ติดมือกลับมาด้วย

นอกจากนี้ กลุ่มกบฏเอชทีเอสได้ปล่อยตัวนักโทษหลายพันคนออกจากเรือนจำทหาร บริเวณชายกรุงดามัสกัส ขณะที่มีการเผยภาพขณะกลุ่มนักโทษวิ่งออกมาฉลองเสรีภาพตามท้องถนน ซึ่งบางคนก็ยังงุนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ตะโกนถามคนผ่านไปผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้น โดยไม่รู้ว่า "อัสซาด" ถูกโค่นอำนาจแล้ว

ด้านอิสราเอลและสหรัฐฯ อาศัยจังหวะที่สถานการณ์ยังไม่สงบ เปิดการโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยอิสราเอลได้โจมตีคลังกระสุนที่ตั้งอยู่ใกล้สนามบินในกรุงดามัสกัส รวมทั้งอาคารด้านความมั่นคงและศูนย์วิจัยที่ในอดีตอิหร่านเคยใช้สำหรับพัฒนาขีปนาวุธ ขณะที่ สหรัฐฯ ได้มีการโจมตีทางอากาศเป้าหมายค่ายและฐานปฏิบัติการ 12 แห่ง ของกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) ที่ตั้งอยู่ในซีเรียด้วยฃ

สำหรับบรรยากาศในหลายประเทศทั่วโลก มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียออกมาร่วมเฉลิมฉลองตามท้องถนน หลังในที่สุดก็สามารถโค่นอำนาจของตระกูลอัสซาดที่ปกครองซีเรียมานานเกือบ 6 ทศวรรษ และเป็นต้นเหตุให้เปิดสงครามกลางเมืองยาวนานกว่า 13 ปี ขณะที่ สถานกงสุลซีเรียในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซีย ก็ได้มีการนำธงชาติซีเรียลงจากเสา และได้ติดธงสัญลักษณ์ของกลุ่มกบฏแทน