ห้องข่าวภาคเที่ยง - ยังคงต้องหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างปริศนา ของผู้จัดการโรงงานผลิตปลาร้าใน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่พาลูกน้องลงไปล้างทำความสะอาดบ่อ เพื่อเตรียมนำปลามาหมัก แต่ต้องจบชีวิตทั้ง 5 คน
หาสาเหตุคนงาน 5 คน เสียชีวิตปริศนาบ่อหมักปลาร้า
เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจ แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่ พฐ.และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูหล่มสัก ไปตรวจสอบโรงงานผลิตปลาร้าชั้นเดียว มุงด้วยหลังคาสังกะสี กำแพงเป็นปูนและไม้ระแนง บรรยากาศภายในอาคารมีลักษณะอับทึบ ไม่ระบายอากาศ ส่งกลิ่นปลาร้าคละคลุ้งรุนแรงเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้แมสก์ถึง 2 ชั้น เพื่อเข้าไปตรวจสอบ ภายในโรงงานมีบ่อหมักปลาร้าอยู่ด้านขวามือ ประมาณ 10 บ่อ ตรงกลางของอาคารเป็นที่เก็บโอ่งหมักปลาร้าและปลาร้าบรรจุปี๊บ
บริเวณด้านในสุด ฝั่งซ้ายสุดของอาคาร พบห้องหมักปลาร้า ภายในมีบ่อปูนสำหรับหมักปลาร้า ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร ลึก 3 เมตร ประมาณ 4 บ่อ ต้องใช้บันไดลงไปในบ่อ บริเวณก้นบ่อปูนที่อยู่ในห้องหมักปลาร้า พบร่างผู้เสียชีวิต 5 คน นอนเรียงกระจายกันอยู่ในบ่อ ที่มีน้ำผสมน้ำปลาร้าขังประมาณ 40 เซนติเมตร
เรามีภาพนิ่งที่เกิดเหตุ เอาแบบชัด ๆ คือบ่อนี้อยู่ในห้องหมักปลาร้า มีทางเข้าด้วยกัน 4 ช่อง มีขอบปูนสูงประมาณ 1 เมตรเศษ ต้องใช้บันไดพาดลงไปด้านล่าง ลึกประมาณ 3 เมตร ด้านล่าง เชื่อมต่อกันทั้ง 4 บ่อ มีถังสีฟ้าที่ใช้หมักปลาร้าจำนวนมากกระจายกันอยู่โดยรอบ
ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คน เป็นคนงาน หนึ่งในนั้นเป็นผู้จัดการ และเป็นลูกเขยเจ้าของโรงงาน บางศพนอนคว่ำหน้าจมอยู่ในน้ำ บางศพก็นอนหงาย ภายในบ่อมีบันไดที่พาดเอาไว้ขึ้นลง
หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูต้องเปิดหลังคาสังกะสี เพื่อระบายอากาศก่อนเคลื่อนย้ายศพขึ้นมาจากบ่อหมักปลาร้าอย่างทุลักทุเล โดยให้หน่วยกู้ภัยหมุนเวียนกันเข้าไปปฏิบัติงาน เพราะกลิ่นแก๊สหมักปลาร้ารุนแรง เมื่ออยู่นานจะเกิดอาการวิงเวียนหน้ามืด พอนำทั้ง 5 คน ขึ้นมาได้
แพทย์นิติเวช ได้ชันสูตรเบื้องต้น ระบุว่า ผู้ตายขาดอากาศหายใจ ลักษณะคล้ายกับการเสียชีวิตของรายอื่น ๆ ในบ่อเกรอะที่จะมีแก๊สสะสมปริมาณสูงมาก ทำให้ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุหมดสติ และเสียชีวิต พร้อมกับส่งศพทั้งหมดไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และนำเลือดของผู้ตายส่งไปตรวจหาสารพิษในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อให้ระบุได้อย่างชัดเจน
ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบผู้เสียชีวิตและบ่อหมักปลาร้า ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า เจ้าของโรงงาน ให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คน ลงไปล้างทำความสะอาดบ่อ เพื่อเตรียมรับปลาที่จะมาส่งในวันนี้ เพื่อทำการหมักในบ่อหมักดังกล่าว
ภายในโรงงานอากาศไม่ถ่ายเท บ่อมีความลึก ด้านล่างอากาศเบาบาง แทบจะหายใจไม่ได้ คาดว่าเป็นสาเหตุทำให้ทั้ง 5 คน เสียชีวิต สภาพศพทั้ง 5 ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ส่วนสาเหตุที่่ชัดเจน ต้องรอผลการตรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง
สอบถามผู้กำกับ สภ.หล่มสัก บอกว่า บ่อนี้ไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว เผอิญมีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาเพิ่ม เลยให้คนงานลงไปล้างทำความสะอาดบ่อ พร้อมกับสั่งซื้อปลามา เพื่อเตรียมหมักปลาร้าเพิ่ม คนงานโรงงานนี้มี 6 คน ผู้จัดการซึ่งเป็นลูกเขย อีก 1 คน รวม 7 คน เมื่อวานนี้มีไปส่งของให้ลูกค้า 1 คน และลาป่วยอีก 1 คน เหลือ 5 คน ที่ลงไปทำความสะอาด
คาดว่า น้ำที่ใช้ล้างไปผสมกับหัวเชื้อปลาร้าที่ตกค้างอยู่ จนเกิดแก๊สพิษรุนแรงจนหมดสติ และเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือทำร้ายร่างกาย น่าจะเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการชันสูตรศพ และตรวจหาสารพิษในกระแสเลือด เพื่อระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
ทั้งนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าสารพิษที่ตกค้างเป็นสารพิษชนิดใด
แก๊สไข่เน่า อันตรายถึงชีวิต
ทางด้านอาจารย์อ๊อด รองศาสตราจารย์ วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือ แก๊สไข่เน่า เป็นสารที่อันตรายมาก สามารถทำให้เสียชีวิตได้ถ้าหายใจเข้าไป ในปริมาณมาก หรือเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในพื้นที่ปิด ที่ไม่มีการระบายอากาศ
เพราะสารจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้หมดสติทันที และอาจเสียชีวิตได้ ในเวลาไม่กี่นาที
ส่วนผลกระทบต่อร่างกาย เช่น ระคายเคืองตา จมูก และคอ คลื่นไส้ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ และหายใจลำบาก แต่หากได้รับในระดับสูง ระบบหายใจล้มเหลว หัวใจหยุดเต้น หมดสติ และเสียชีวิต
ซึ่งแก๊สไข่เน่า สามารถพบได้ในอุตสาหกรรม เช่น การบำบัดน้ำเสีย โรงงานปุ๋ย การเน่าเสียของสารอินทรีย์ในพื้นที่ปิด เช่น ท่อระบายน้ำ และถังบำบัดน้ำเสีย
วิธีป้องกัน และปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ ต้องติดตั้งระบบระบายอากาศในพื้นที่เสี่ยง และสวมหน้ากากกรองแก๊ส ก่อนเข้าปฏิบัติงาน