ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม่ลูกคู่หนึ่ง มาร้องเรียนการทำงานของตำรวจ ทำคดีอุบัติเหตุไม่โปร่งใส พยายามจะให้ผู้เสียหายยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด แถมในสำนวนคดี ก็น่าจะมีการเปลี่ยนตัวคู่กรณี เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
จะเห็นว่ารถยนต์สีขาว ขับอยู่ในช่องทางขวา จะเลี้ยวเข้าซอยด้านซ้ายมือ พอเปิดไฟเลี้ยวก็หักหัวปาดเข้าไปทันที
ทำให้รถจักรยานยนต์ที่มีชายใส่เสื้อสีขาว ซึ่งขี่ตามหลังมาทางด้านซ้าย ชนเข้าอย่างจัง รถจักรยานยนต์ล้มแล้วก็ไถลไปชนรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง เสียหายอีก 2 คัน ส่วนชายหนุ่มคนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ ไหล่ขวาหลุด นิ้วมือซ้ายหัก อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่หน้าปากซอยพรประภานิมิตร 36/2 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ภาพวงจรปิดอีกมุม จับภาพชายรูปร่างสูง เป็นชาวต่างชาติ เดินสะพายเป้อยู่ในซอยใกล้จุดเกิดเหตุ เดินจ้ำ ๆ เข้าซอยไปไม่เหลียวหลัง ชายคนนี้ถูกระบุว่าเป็นคนขับรถเก๋งคันสีขาว
ชายหนุ่มผู้เสียหายและแม่ นำหลักฐานมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน บอกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำคดีของตำรวจ เพราะตั้งแต่หลังเกิดเหตุใหม่ ๆ ทั้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยของรถเก๋งคู่กรณี พยายามจะยัดเยียดให้ตนเองเป็นฝ่ายผิด คือ จะให้ตนเองยอมรับว่าประมาทร่วม ต้องไปเสาะหาหลักฐานมายืนยัน แต่ตำรวจก็ยังคงยืนกรานว่า ตนเองต้องผิดด้วย
หนำซ้ำ พอไปขอดูสำนวนคดีกลับพบว่า คนขับรถเก๋งคู่กรณี กลายเป็นสาวประเภทสอง ทั้ง ๆ ที่หลังจากรถชนกันแล้ว ชายชาวต่างชาติเป็นคนเปิดประตูลงมาจากที่นั่งด้านคนขับ
เรื่องที่เกิดขึ้น นางรัชดา เล่าด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า เสียใจมาก คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถึงตอนนี้เข้าเดือนที่ 3 แล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตำรวจยังคงพยายามชี้ให้ลูกชายเป็นฝ่ายผิด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมตรวจสอบหลักฐานและชี้แจงอย่างละเอียด เพราะว่าลูกชายเองตอนนี้แขนซ้ายไม่สามารถใช้งานได้ปกติ หลังเกิดอุบัติเหตุก็ตกงานรายได้ที่มีก็หดหาย เพราะลูกชายเปรียบเสมือนเป็นเสาหลักของครอบครัว จนกระทั่งมีคนช่วยแนะนำให้เดินทางมาขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น