สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ สั่งพักงานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ 2 คน ที่ทำร้ายผู้ป่วยบำบัดอาการขาดเหล้าจนเสียชีวิต
จากกรณี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายสะอาด อายุ 31 ปี เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะเข้าบำบัดอาการขาดเหล้า ทำให้ทางญาติเกิดความเคลือบแคลงใจ นำไปสู่การนำร่างของนายสะอาด ผู้ตาย ไปชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยผลชันสูตรสาเหตุของการตาย สันนิษฐานว่า สมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกของแข็งทำให้ทางครอบครัวของผู้ตาย มั่นใจว่า นายสะอาด ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
ต่อมา สื่อได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดขณะนายสะอาด ผู้ตาย เดินออกจากเตียง และถูกเจ้าหน้าที่พยาบาลจับทุ่ม และทุบตี ออกมาเผยแพร่
ล่าสุด วันที่ 10 ธ.ค. 67 ทางตัวแทนจากโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ได้นำพวงหรีดและเงินช่วยงานมามอบให้กับทางแม่ และญาติผู้ตาย แต่ทางแม่ และญาติผู้ตายไม่ยอมรับเงินไว้เลย ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่บ้านผู้ตาย และได้พูดคุยกับทางญาติผู้ตาย โดย นางสาวนาตยา อายุ 23 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายสะอาดผู้เสียชีวิต ได้เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่พี่ชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะมีอาการแฮงค์เหล้า ช็อก ชักเกรงตัวสั่น ในวันที่ 4 เวลา 22.00 น.พ่อก็ได้พาไปโรงบาลพยาบาลกันทรลักษ์ตอนที่ขึ้นรถไป นายสะอาด ก็เดินขึ้นรถเองได้ปกติ หมอได้ตรวจเอกซเรย์เจาะเลือด ทุกอย่างปกติ หมอให้นอนโรงพยาลเพื่อดูอาการ
นอนได้ 2 วัน หลังจากนั้นวันที่ 7 ธันวาคม เวลา 3:00 น.หมอให้ย้ายตึกมาที่ตึกสงฆ์ อ้างว่านายสะอาด ไม่นอนและเล่นโทรศัพท์ทั้งคืน พอมาถึงตึกสงค์เจ้าหน้าที่ให้พ่อออกจากห้องเจ้าหน้าที่ล็อกห้องไว้ หลังจากนั้นพ่อได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ทุบตีลูก พ่อจึงกลับไปดูลูกอีกทีและถามเจ้าหน้าที่ว่าทำแรงไปไหม เจ้าหน้าที่จึงบอกกับพ่อว่าจะให้รักษาไหม หลังจากนั้นพ่อก็ออกมารอนอกห้อง พอเวลา 06.00 น.พ่อจึงได้เข้าไปดูและป้อนน้ำกับนมนายสะอาด พ่อถึงเห็นว่าลูกถูกมัดแขนขา ตามตัวนายสะอาดผู้ตายมีรอยบาดแผลพกช้ำ มีเลือดออกเต็มตัว แต่พ่อก็ไม่กล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกตน
นางสาวนาตยา กล่าวต่อว่าตนได้เข้าไปเยี่ยมพี่ชายเมื่อช่วง 18:00 น.ของวันที่ 7ธันวาคม ตอนนั้นนายสะอาดถูกมัดมือมัดขาไว้กับเตียง มีรอยบาดแผลที่ตาและแขน ตามตัวมีรอยเขียวช้ำ แต่ยังสามารถที่จะพูดคุยได้รู้เรื่อง นายสะอาดได้บอกกับตนว่าอยากกลับบ้าน อยู่ที่โรงพยาบาลยังไงก็ตายเพราะเอามาทุบตีเอามาฆ่าให้ตาย หลังจากนั้นพยาบาลก็ให้ตนออกจากห้องเพราะหมดเวลาเยี่ยมแล้ว ตนกลับมาบ้านและไม่มีใครเฝ้านายสะอาดเพราะทางโรงพยาบาลไม่ให้ญาติเฝ้าไข้ พอมาถึงบ้าน เวลา 2 ทุ่มกว่า เจ้าหน้าที่ได้โทรกลับมาแจ้งญาติว่านายสะอาดได้เสียชีวิตแล้ว ตนจึงได้เดินทางไปดูศพ
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. 67 นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่บ้านของ นายสะอาด ผู้ตาย เพื่อมาติดตาม สอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว พร้อมมอบสิ่งและเงินจำนวนหนึ่งให้กับญาติ โดยพอนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาถึงได้มีการเข้ามาพูดคุยกับทาง แม่ ผู้เสียชีวิต และกับญาติของผู้ตาย โดยทางแม่ และญาติๆ ถึงกับเข่าอ่อนหลังเห็นภาพวงจรปิดที่ออกมาทางสื่อ ซึ่งรับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าหน้าที่ ที่กระทำกับผู้ตาย โดยระหว่างพูดคุยกับ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ แม่ และญาติ ได้แต่ร่ำให้สงสารผู้ตายที่ถูกกระทำแบบนี้
นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า อันดับแรกตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากคลิปเหตุการณ์ที่สื่อมีการนำเสนอนั้น ก็ต้องมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งจริงๆแล้ว การกระทำในเรื่องนี้ บางครั้งก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หน่วยงานเองก็ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ และอาจจะเป็นเรื่องของการขาดทักษะของเจ้าหน้าที่ในการดูแลพยาบาลผู้ป่วย ซึ่งตอนนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน ที่ปรากฏในสื่อแล้ว และจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ต่อไป
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า โรงพยาบาลกันทรลักษ์ตอนนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ซึ่งยังไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ และในส่วนของการชี้แจง นั้น ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรลักษ์ จะได้ทำการชี้แจงในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนได้บอกกับทางญาติว่าในเรื่องนี้จะให้ความเป็นธรรม เราไม่ได้เข้าข้างใคร ผิดก็ต้องว่าไปตามผิดในเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องของการเยียวยาตามมาตรา 41 ของหลักประกันสุขภาพหแห่งชาติที่มีอยู่ตามสิทธิ ก็จะดำเนินการให้ และส่วนที่เหลือก็จะพูดคุยกับญาติของนายสะอาด ว่าจะให้ดำเนินการต่อไปอย่างไรบ้างในเรื่องนี้
ขณะที่ นายมีผล อายุ 70 ปี เปิดเผยว่า สิ่งที่เห็นตนถึงกับรับไม่ได้ เพราะตามที่เห็นคือหลานของตนไม่ได้ต่อสู้ หรือโวยวายอะไรเลย ทำแบบนี้กับหลานของตนได้อย่างไร และตนไม่ให้อภัยกับสิ่งที่กระทำอย่างแน่นอน ถ้ากระทำผิดจริง ทำไมไม่มายอมรับแต่แรก ถ้ายอมรับแต่แรกยังพออภัยได้ และทำไมหน่วยงานต้องปกปิดข้อเท็จจริงที่มันเกิดขึ้น หรือแม้กระทั่งการไปแจ้งความก็ยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งถ้าเป็นญาติพวกท่าน บุตรของพวกท่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกทำร้ายขนาดนี้ จะทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ระหว่างที่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ มอบเงินช่วยงาน ทางแม่ของผู้ตายจะไม่รับเงิน เนื่องจากคิดว่าเป็นช่วยเหลือจากทางโรงพยาบาลกันทราลักษ์ แต่พอทำความเข้าใจกับ แม่ผู้ตาย ถึงรู้และยอมรับเงินจาก สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งน้ำตา
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ลงที่เยียมและทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต และเปิดเผยว่า เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้จึงสั่งการให้รองผู้บังคับการ ผู้กำกับสอบสวน ผู้กำกับสืบสวนภูธรจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับผู้กำกับอำเภอกันทรลักษ์ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่ดำเนินการนำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ และสอบปากคำไปแล้ว5-6ปาก พยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปของคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อจะมาให้กำลังใจทางญาติผู้เสียชีวิตและมาสร้างความเชื่อมั่นว่าทางตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ว่าทางตำรวจมาสร้างความเชื่อมั่นมาให้ความเป็นธรรม และหาความจริงให้กับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต และจะนำตัวผู้ที่กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ได้โดยเร็ว