วันนี้ (11 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ซึ่งสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล.) โดย พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล พร้อมด้วย ร.ต.อ.นิคม เพชรนิล รอง สว.(ป.) ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล, ร.ต.ต.ธรรมศักดิ์ จงทอง รอง สว.(ป.) ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล, ด.ต.ประทีป มีอุดร ผบ.หมู่ ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล, จ.ส.ต.สายชล ศิลาไศล ผบ.หมู่ ส.ทล 3 กก.5 บก.ทล.,จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ ผบ.หมู่ ส.ทล 1 กก.5 บก.ทล. ร่วมกันไล่ล่าสกัดจับคนร้ายขโมยรถยนต์ขับหลบหนีข้ามจังหวัด ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร
กระทั่งสามารถจับกุมได้ที่จุดกลับรถ แยกสกัดน้ำมัน ถ.เลี่ยงเมืองพิษณุโลก ม.2 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก หลังสกัดจับแล้วคนร้ายประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟส่องสว่างที่เกาะกลางถนน ก่อนเข้าจับกุม นายกรกฎ อายุ 31 ปี แต่ขณะเข้าจับกุมผู้ต้องหายังพยายามใช้อาวุธมีดทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยึดของกลาง รถยนต์เอนกประสงค์ สีขาว ซึ่งเป็นรถที่ขโมยมา 1 คัน และ อาวุธมีด ยาว 9 นิ้วรวมด้าม จำนวน 1 เล่ม
การไล่ล่าสกัดจับดังกล่าว สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. พิษณุโลก ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์รถยนต์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จ.อุตรดิตถ์ ทาง พ.ต.ท.ต่อสกุล จึงได้วิทยุวางแผนสกัดจับตามที่ได้ทำการฝึกมา และสั่งการให้หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงบ้านป่า จ.พิษณุโลก ทำการสกัดจับ บริเวณถนนหลวงหมายเลข 11 ฝั่งขาเข้า หน้าหน่วยบริการฯ ต่อมารถคันดังกล่าวได้ขับขี่ฝ่าจุดสกัด ในขณะเดียวกัน ด.ต.ประทีป และ ร.ต.ท.นิคม ได้ขับรถวิทยุสายตรวจทางหลวงหมายเลข 5305 ติดตาม และได้ประสานรถวิทยุสายตรวจหมายเลข 5303 ที่มี จ.ส.ต.พีระวัฒน์ และ จ.ส.ต.สายชล สกัดจับบริเวณ ถนนทางหลวง 126 ฝั่งขาออก โดยได้ประสานรถบรรทุกพ่วงจอดปิดเส้นทาง เพื่อกีดขวางเส้นทางบริเวณแยกสกัดน้ำมัน
เมื่อรถคันที่ก่อเหตุถึงบริเวณแยกที่เกิดเหตุ ได้เห็นรถพ่วงจอดขวางถนน และได้ขับขี่พุ่งชน จ.ส.ต.พีระวัฒน์ แต่ กระโดดหลบได้ทัน ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนรถคันก่อเหตุดังกล่าวกระเสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างบริเวณเกาะกลางถนน จากนั้น ด.ต.ประทีป และ ร.ต.ท.นิคม ที่ขับขี่ไล่ตามมาแบบประชั้นชิด ได้พยามเข้าทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาได้พยามนำอาวุธมีดพกแทง ด.ต.ประทีป และ จ.ส.ต.พีระวัฒน์ ก่อนพยายามจะชิงเอารถวิทยุสายตรวจทางหลวงเพื่อที่จะขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปที่บริเวณมือด้านขวาของผู้ต้องหาเพื่อหยุดยั้ง กระทั่งสามารถควบคุมตัว นำผู้ต้องหาเข้ารักษาตัวที่ รพ.พุทธชินราช และส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดี รวมระยะทางที่หลบหนีการไล่ล่ากว่า 50 กิโลเมตร
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่บาดเจ็บ มี ด.ต.ประทีป ได้รับบาดเจ็บมีรอยปลายมีดแทงบริเวณหน้าท้องด้านซ้าย เป็นรอยถลอกเล็กน้อย และ จ.ส.ต.พีระวัฒน์ บาดเจ็บบริเวณข้อเท้า เนื่องจากกระโดดหลบรถผู้ต้องหาที่ขับพุ่งชน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก ได้สั่งการให้ดูแลรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี พร้อมชมเชยในการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี ไล่ล่าคนร้ายกว่า 50 กิโลเมตร ปฏิบัติตามแผนก้าวสกัดจับจนสามารถจับกุมคนร้ายและหยุดความเสียหาย ไม่ทำให้เกิดอันตรายใดกับประชาชนที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี