พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ดังนี้

View icon 371
วันที่ 12 ธ.ค. 2567 | 20.03 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 17.11 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ซึ่งรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เห็นชอบร่วมกันในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 เป็นการสานต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างสองประเทศ ผ่านสายสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา ผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างไทย-จีน รวมทั้ง เพื่อให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล อันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองและธำรงไว้อย่างมั่นคงถาวร

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้าแล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปตั้งที่มณฑปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากนั้น เสด็จขึ้นมณฑปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) บริเวณหน้าห้องกระจก ชั้น 3 ทรงวางพุ่มดอกไม้ แล้วเสด็จลงมายังมณฑปฯ ชั้น 2 ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ทรงกราบ แล้วทรงพระดำเนินไปยังพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เชื่อกันว่าเป็นพระเขี้ยวแก้วเบื้องบนซ้ายของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว ประดิษฐานในพระสถูปทองคำประดับอัญมณีล้ำค่าตามลักษณะศิลปกรรมแบบจีน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัฐบาลไทยเคยอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เมื่อปี 2545 โดยครั้งนี้ อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 - 14 กุมภาพันธ์ 2568 รวม 73 วัน ซึ่งได้จัดเตรียมดอกไม้สำหรับถวายสักการะรูปภาพพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) และน้ำดื่มไว้บริการแก่ผู้ที่ไปถวายสักการะฯ ด้วย

เวลา 17.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์เกียรติยศ นายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ ประธานกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร นำนักการสาธารณสุขดีเด่น ประจำปี 2567 เฝ้า และเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัลชัยนาทนเรนทร ดังนี้

- นายอนุทิน ชาญวีรกูล นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทบริหาร

- นายแพทย์มนฑิต พูลสงวน นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทบริการ

- นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทวิชาการ

- นางวิลัยวัลย์ ธงสันเทียะ นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทประชาชน

- พระครูปิยวรรณพิพัฒน์ นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทผู้นำชุมชน

โอกาสนี้ คณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และคณะกรรมการรางวัลชัยนาทนเรนทร ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วย

เวลา 18.00 น. พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี นายกสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการจัดงาน "เทิดไท้องค์ราชัน พระมิ่งขวัญ หนึ่งศตวรรษ เอ ยู เอ เอ" (In Honoring of His Majesty the King and Celebrating AUAA First Century) เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

ข่าวอื่นในหมวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง