ฝากขังผู้ต้องหารุมฆ่า สจ.โต้ง

View icon 40
วันที่ 13 ธ.ค. 2567 | 11.15 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีของ "สจ.โต้ง" ยังมีเงื่อนงำ และปริศนาสำคัญอีกมาก แม้ตอนนี้ตำรวจจะเชื่อว่า ชนวนเหตุเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องการเตรียมสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.ปีหน้า แต่ผู้ต้องหาที่รับสารภาพ กลับอ้างเหตุผลส่วนตัว และที่สำคัญวงจรปิดในบ้านเสียอีกแล้ว แบบนี้จะคลี่คลายคดีได้ไหม ?

คำถามนี้ถูกถาม พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี หรือ บิ๊กอ้อ ที่รับการบ้านจาก ผบ.ตร. ให้พาทีมกองปราบฯ ไปร่วมสนับสนุน เพื่อช่วยคลี่คลายปมการเสียชีวิตที่ว่านี้

"บิ๊กอ้อ" ตอบคำถามของสื่อในประเด็นเรื่องวงจรปิด พูดแบบไม่ฟันธง ว่ากล้องเสียจริงไหม แต่บอกชัดว่าคดีนี้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ได้ระดับหนึ่ง และกล้องวงจรปิด ก็ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของการคลี่คลายคดีนี้

ส่วนเรื่องที่ต้องทำต่อไป ก็คือการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ใครที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีกหรือไม่ แม้ก่อนหน้านี้จะมี นายกอล์ฟ และตูน รับสารภาพแค่ 2 คน อ้างปมเหตุเรื่องความแค้นส่วนตัว และเรื่องระหว่าง สจ.โต้ง กับโกทร ก็คุยกันจบไปแล้ว แต่ชุดสืบสวนยังไม่ฟันธงว่าเป็นแบบนั้น

อย่างไรก็ตามตามกระบวนการ วันนี้ตำรวจจะต้องพาผู้ต้องหาที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ทั้ง 7 คน ไปขออำนาจศาลฯ ฝากขัง ในความผิดฐานร่วมกันฆ่า และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เพราะแน่นอนคดีแบบนี้อัตราโทษสูง เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล มีโอกาสที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีได้ หากได้รับการประกันตัวไป

ซึ่งแม้ผู้ต้องหาจะถูกคุมตัวฝากขังไปวันนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ครอบครัวของ สจ.โต้ง จะปลอดภัย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่บอกว่าตัวเองสนิทกับครอบครัวนี้ เลยอาสาจะพา "จอย" ภรรยาของ สจ.โต้ง ไปขอการคุ้มครองพยานกับตำรวจสอบสวนกลางในช่วงบ่าย

ทีมข่าว 7HD สอบถามเรื่องนี้กับ นายอัจฉริยะ ก็ยอมรับว่า หลังเหตุการณ์ผ่านไป จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการข่มขู่ หรือสัญญาณใด ๆ ที่น่ากังวล แต่ไม่อยากประมาท เพราะก่อนหน้านี้ สจ.โต้ง ก็เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องจ้างตำรวจชุดสืบสวน 4 นาย และการ์ด คอยติดตามดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา และจริง ๆ แล้ว ก็มีข่าวอยู่เหมือนกัน ว่ามีคนคิดปองร้าย สจ.โต้ง แต่คาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในบ้าน และนอกจากเรื่องการคุ้มครองพยานแล้ว คงจำเป็นต้องขอให้กองปราบฯ พิจารณารับโอนสำนวนคดีนี้ไปดูแลด้วย เพราะยังมีคนที่น่าจะเกี่ยวข้องอีกอย่างน้อย 2 คน ยังไม่ถูกดำเนินคดี

ทีมข่าว 7HD สอบถามเรื่องนี้กับแหล่งข่าวในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็บอกว่า เรื่องการโอนสำนวนคดีไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เพราะคดีนี้เข้าองค์ประกอบที่ กองปราบฯ สามารถรับทำคดีนี้ได้ เช่น เป็นเรื่องของผู้มีอิทธิพล เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และไม่ได้รับความเป็นธรรม

ส่วนการที่ตำรวจไม่สามารถเข้าที่เกิดเหตุได้ทันที ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ยอมรับว่าอาจมีผลต่อรูปคดีได้ แต่การคลี่คลายคดี ไม่ได้ใช้แค่พยานหลักฐาน หรือภาพวงจรปิดอย่างเดียว ยังมีการสอบปากคำพยานปากสำคัญ พยานแวดล้อม และมูลเหตุจูงใจ ที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน และเรื่องที่ "โกทร" จะมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่สามารถตั้งเป็นข้อสงสัยได้

ขณะเดียวกันมีรายงานความคืบหน้าทางคดี หลังตำรวจกองปราบฯ ลงมาช่วยในการสืบสวนและทำดคีด้วยว่า ชุดสืบสวนได้เห็นรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ยืนยันว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นมาจากเรื่อง "ความขัดแย้งทางการเมือง" แน่นอน ไม่ได้เป็นไปตามที่มีข้อมูลออกมาว่า เป็นความขัดแย้งส่วนตัวของลูกน้องโกทร กับตัวของ สจ.โต้ง รวมถึงประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่าว่า "โกทร" นอนอยู่ในห้อง แนวทางการสืบสวนก็พบว่าไม่ได้เป็นไปตามนั้น เพราะทุกอย่างถูกจัดวางไว้ทั้งหมด ส่วนผู้ต้องหาขณะนี้พบว่ายังมีทั้งหมด 7 คน และหลังจากนี้จะมีการขยายผลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการยิงต่อสู้กันด้วย

สถานการณ์ ในบ้านวิลาวัลย์ น่าจะร้อนระอุขึ้นไปอีก หลัง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า แช็ตที่อ้างว่าเป็นคนสนิทของนายทักษิณ ทาบทามภรรยา ของ สจ.โต้ง ลงสมัคร นายก อบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องจริง และยืนยันว่า เรื่องนี้ได้คุยกับ นายสุนทรแล้ว วันเกิดเหตุคงเรียกกันเข้าไปต่อรอง หรือ คุยอะไรกันบางอย่าง ส่วนตัวไม่รู้ และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยจะยังส่งผู้สมัครอยู่อีกหรือไม่

ต้องจับตาที่เวทีสัมมนา สส. พรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน ว่าแกนนำพรรคจะใช้โอกาสนี้ หารือกับ สส. เพื่อเตรียมพร้อมส่ง ผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ โดยเฉพาะที่ปราจีนบุรี ถ้าหาคนใหม่ไม่ได้แล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ขณะที่ เลขาธิการ กกต. คุณแสวง บุญมี บอกว่า ไม่กังวล เหตุยิงกันที่บ้านใหญ่ปราจีนบุรี จากปมเหตุแย่งชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบการออกไปใช้สิทธิของประชาชน

พร้อมย้ำว่า กกต.มีหน้าที่สนับสนุน และกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัว ออกไปใช้สิทธิการเลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงที่เข้ามาเกี่ยงโยงมีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดูแลอยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง