พิพัฒน์ มั่นใจค่าแรง 400 บาท ได้ข้อสรุป 23 ธ.ค.

View icon 21
วันที่ 13 ธ.ค. 2567 | 16.42 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ความคืบหน้าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท หลังจากก่อนหน้านี้ การประชุมคณะกรรมค่าจ้างล่มไป 2 รอบ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ แต่ล่าสุด การประชุมบอร์ดค่าจ้าง เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) ก็ล่มไปอีกรอบ ไม่ได้พิจารณาอีก เลื่อนไปประชุมวันที่ 23 ธันวาคม โดย นายพิพัฒน์ มั่นใจจะได้ข้อสรุปในวันที่ 23 ธันวาคม

พิพัฒน์ มั่นใจค่าแรง 400 บาท ได้ข้อสรุป 23 ธ.ค.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดไตรภาคี) ในการพิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ว่า เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดค่าจ้างได้เชิญกรรมการทั้ง 3 ฝ่าย มาประชุมพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำ แต่กรรมการมาไม่ครบ เนื่องจาก 2 กรรมการฝ่ายรัฐ ติดภารกิจบางอย่าง จึงเลื่อนประชุมไปเป็นวันที่ 23 ธันวาคม

ซึ่งมั่นใจว่า การประชุมในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ จะมีข้อสรุปเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท แต่ไม่ได้ปรับขึ้นพร้อมกันในคราวเดียวกันทุกสาขาอาชีพ แต่จะทยอยแบ่งปรับขึ้นเป็น 3 ระยะ โดยอิงข้อมูลจริงตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ประกอบการ SME โดยจะพิจารณาลงไปในแต่ละพื้นที่ ที่มีสภาพเศรษฐกิจแตกต่างกัน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้การประชุมคณะกรรมค่าจ้างล่มไป 2 ครั้ง เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ หลังจากนั้นก็ต้องเลื่อนการประชุมออกไป เพราะบอร์ดไตรภาคีไม่ครบ จน ครม. มีมติแต่งตั้งรายชื่อ 2 กรรมการฝ่ายรัฐเรียบร้อยแล้ว จนทำให้บอร์ดไตรภาคีครบสมบูรณ์ทั้ง 3 ฝ่าย เมื่อวาน (12 ธ.ค.) จึงนัดประชุมกัน แต่ปรากฏว่า ตัวแทนรัฐบาลเข้าประชุมเพียง 3 คนเท่านั้น ขาดอีก 2 คน ที่แจ้งขอลาประชุม ทำให้ไม่มีการพิจารณาตัวเลขปรับค่าจ้าง แต่ปลัดกระทรวงแรงงานบอกว่า สาเหตุที่ไม่มีการพิจารณา ไม่ใช่องค์ประชุมไม่ครบ แต่เป็นเพราะยังมีข้อมูลที่ต้องพิจารณาอีกมาก และบอร์ดทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันให้มีการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 13.00 น. โดยยืนยันว่า ตัวเลขค่าจ้างจะไม่ปรับอัตราเดียวกันทุกจังหวัด แต่พิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่ โดยจะพยายามให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ผู้ใช้แรงงาน

คาด "บ้านเพื่อคนไทย" เริ่มเข้าอยู่ในปี 68
ส่วนควันหลง หลังจาก นายกฯ แถลง 5 นโยบาย เดินหน้าทำในปี 68 ซึ่งหนึ่งในโครงการที่คนสนใจคือ โครงการบ้านเพื่อคนไทย ให้คนไทยมีบ้านในราคาถูก ใกล้รถไฟฟ้า ผ่อนแค่เดือนละ 4,000 บาท ไม่มีเงินดาวน์ ผ่อนในระยะยาวไม่เกิน 30 ปี แต่ประชาชนไม่มีสิทธิ์ได้กรรมสิทธิ์บ้าน หรือ คอนโดมิเนียม เนื่องจากเป็นที่ของ รฟท. แต่สามารถอยู่อาศัยได้นานถึง 99 ปี โดยโครงการบ้านเพื่อคนไทย จะเปิดให้ประชาชนได้เยี่ยมชมห้องตัวอย่างของโครงการในวันที่ 20 มกราคม 2568 ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ทั้งนี้โครงการบ้านเพื่อคนไทยมีเงื่อนไข คือ ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อนและไม่มีเครดิตบูโร

ความจริง "โครงการบ้านเพื่อคนไทย" ไม่ใช่โครงการที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เพราะที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบหลักการไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งโครงการบ้านเพื่อคนไทย เป็นโครงการที่นำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินรถ มาสร้างบ้านและคอนโดมิเนียม ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลที่ดินรอบพื้นที่สถานีรถไฟ ที่ไม่ได้ใช้ เพื่อการเดินรถมีประมาณ 38,000 ไร่ กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วทั้งประเทศ พบว่า มีพื้นที่มีศักยภาพรวมพื้นที่กว่า 700 ไร่

โดยเพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย เคยโพสต์รายละเอียด โครงการบ้านเพื่อคนไทยว่า แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะเร่งด่วน (พ.ศ.2567-2568) โครงการบ้านเพื่อคนไทยสำหรับโครงการนำร่อง แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดย ระยะที่ 1 การดำเนินการโครงการอาคารชุด 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่เชียงราก พื้นที่บางซื่อ กม.11, ระยะที่ 2 การดำเนินการโครงการบ้านพัก 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่กาญจนบุรี และพื้นที่นครราชสีมา

ระยะสั้น (พ.ศ. 2569-2571) สำหรับโครงการตามแผนงานเบื้องต้น จำนวน 22 โครงการ

ระยะกลาง (พ.ศ.2572-2576) สำหรับพื้นที่ที่มีศักยภาพ จำนวน 87 โครงการ ทั้งนี้ คาดว่า ในระยะเร่งด่วน ระยะที่ 1 ประชาชนที่ลงทะเบียนสามารถเข้าอยู่อาศัยไม่เกิน 150 ยูนิต ภายในปี 2568 โดยรูปแบบบ้านเพื่อคนไทยนั้น มีการออกแบบไว้เบื้องต้น ทั้ง บ้านเดี่ยว ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา และรูปแบบของคอนโดมิเนียม เริ่มที่ห้องขนาด 30 ตารางเมตร

เหน็บแถลงแผนงานในอนาคต แค่ขายฝัน
แต่หลังจากแถลงนโยบายก็มีหลายคนออกมาแสดงความเห็น อาทิ นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็น กรณี นางสาวแพทองธาร แถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน ใจความระบุว่า คนไทยไม่โง่ เห็นภาพข่าวแถลงผลงานของ ออ. จัดมาเสียเต็ม เหมือนแสดงทอล์กโชว์ เวที แสง สี เสียง โพรเจกเตอร์ ไมค์ลอย นึกถึงพี่โน๊ตขึ้นมาทันที แถลงผลงาน คนฟังทางบ้านน้ำตาไหล คนอยากรู้ว่า ผลงานจับต้องได้มันซ่อนที่ไหน หรือมันแค่น้ำลายฟุ้งในอากาศ แผนงาน โครงการในอนาคต ยังไม่ใช่ผลงานนะ มันคือขายฝัน ปลอบประโลมใจให้คนอยู่ในภวังค์ หวังว่าสาวกเสื้อแดงคงเคลิบเคลิ้ม มีคำถามเดียว ค่าออร์กะไนซ์เท่าไร

"สส.ไอซ์" สงสัย แถลงนโยบาย หรือ สรุปผลงาน
ขณะที่ นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ต้องถามก่อนว่า ตกลงเป็น "แถลงนโยบาย" หรือ "สรุปผลงาน" ถ้าจะมอบหมายงานกัน ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียงบประมาณ จัดแจงสถานที่ หอบสังขารกันมาถึงตรงนี้ คุยในที่ประชุม ครม. เอาก็คงได้ และไม่อยากให้ลืมว่า รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยชุดนี้ รวมถึงรัฐมนตรีกว่าครึ่งอยู่ในตำแหน่งมา 1 ปี 4 เดือนแล้ว ไม่ใช่ 90 วัน

นางสาวรักชนก ยังพร้อมโพสต์โต้ นางสาวขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาแนะฝ่ายค้านว่า ควรหยุดสร้างวาทกรรม โดยระบุว่า คุณขัตติยาอาจจะเข้าใจนายกเป็นพิเศษ เพราะต่างได้อาศัยบารมีของบุพการี เพื่อมาอยู่ตรงนี้เหมือน ๆ กัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง