สถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัดใต้ กระทบ 43,595 ครัวเรือน เสียชีวิตแล้ว 3 คน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (15 ธ.ค. 67) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 15 ธ.ค. 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 98 อำเภอ 625 ตำบล 4,264 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 675,160 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 32 ราย
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 27 อำเภอ 137 ตำบล 814 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,595 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้แก่ 1.จังหวัดชุมพร เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว อ.เมืองฯ อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน และอ.ละแม รวม 6 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,701 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองหลังสวนระดับน้ำลดลง 2.จังหวัดระนอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กระบุรี อ.ละอุ่น และอ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,070 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองญวนระดับน้ำลดลง
3.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ท่าฉาง อ.เมืองฯ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.เกาะพงัน และอ.เกาะสมุย รวม 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,216 ครัวเรือน ปัจจุบันแม่น้ำตาปีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น และ 4.จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองฯ อ.ปากพนัง อ.เชียรใหญ่ อ.พระพรหม อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.ขนอม และอ.ช้างกลาง รวม 51 ตำบล 289 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,608 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง รวมถึงทีม ปภ.ส่วนหน้า ยังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป