คอลัมน์หมายเลข 7 : จากไร่ภูนับดาว สู่ตัวละครใหม่ ถือครองสิทธิ ส.ป.ก. 600 ไร่

View icon 37
วันที่ 15 ธ.ค. 2567 | 16.54 น.
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - ทีมข่าวช่อง 7HD ยังคงเกาะติด "ไร่ภูนับดาว" ซึ่งเมื่อกลางสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจสอบพื้นที่โดยรอบอีกกว่า 600 ไร่ หลังพบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 มีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวออกเอกสารสิทธิโดยไม่ชอบ ไปติดตามเรื่องนี้จากคอลัมน์หมายเลข 7

นี่คือแผนที่แปลงด้านล่างรอบ ไร่ภูนับดาว ประมาณ 600 ไร่ ที่ถูกระบุว่า ในอดีตมีสภาพเป็นป่า และสวนป่า ก่อนพัฒนาเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. แต่ต้องสงสัยว่า ถูกกลุ่มทุนครอบครองโดยมิชอบ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งเรื่อง ป.ป.ช.ขยายผลสอบตั้งแต่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยพบบุคคลเดียว เข้าไปฮุบที่ดิน ก่อนจัดสรรแบ่งขายเป็นรายแปลง

สำนักงาน ส.ป.ก. ยืนยันว่า พื้นที่ทั้งหมดเป็นแปลง ส.ป.ก. ไม่ใช่สวนป่า และท้ารบให้กรมป่าไม้ มานำชี้จุดที่อ้างว่าเคยเป็นสวนป่ามาก่อน

ขัดแย้งกับข้อมูลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 ในชั้นกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา

บอกว่า บุกรุกป่า เเละพบชื่อผู้ครอบครองไม่ใช่เกษตรกรตัวจริง บางคนมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ค้าขาย โรงงาน และเป็นภรรยาของข้าราชการ

นอกจากนี้ยังพบมีลูกของอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีรวมอยู่ด้วย

การแบ่งแปลงที่ดินทั้งหมด ไม่น่าเชื่อว่า เกิดจากเจ้าหน้าที่กลุ่มเดียว และพบว่าช่างรังวัดอยู่บ้านเดียวกับนายทุนที่เข้าไปฮุบที่ดินผืนนี้

คอลัมน์หมายเลข 7 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พร้อมพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลตรวจสอบ

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ยืนยัน นี่ไม่ใช่การดิสเครดิตทางการเมือง แต่จะทำให้พื้นที่ ส.ป.ก. ตกเป็นของเกษตรกรตัวจริง

ส่วนพื้นที่บริเวณนี้ ชาวบ้านอ้างว่า ครอบครองโดยลูกของอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมยืนยันชัดเจน พื้นที่ทั้งหมดเป็นป่ามาก่อน

การขยายผลครั้งนี้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ให้ตกถึงมือนายทุน เพราะเท่าที่เห็นหลักฐานเอกสารจาก ป.ป.ท. เขต 1 หากมีการทำคดีอย่างตรงไปตรงมา โอกาสที่จะสาวถึงตัวการใหญ่ ย่อมเป็นไปได้สูง

ส่วน ไร่ภูนับดาว พบว่าปัจจุบันนำป้ายประชาสัมพันธ์บริเวณทางเข้าออกแล้ว

#คอลัมน์หมายเลข7 #ต้านทุจริตตามติดกลโกง #ไร่ภูนับดาว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง