เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตำรวจเปิดยุทธการทลายรังนักเลงปราจีนบุรี จู่โจมค้นเป้าหมาย 5 จุดใน 3 อำเภอ เครือข่ายนายสุนทร วิลาวัลย์ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมคดียิง สจ.โต้ง
ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับตำรวจภาค 2 และตำรวจจังหวัดปราจีนบุรี กว่า 100 นาย บุกตรวจค้น แหล่งเป้าหมายเครือข่ายคนสนิท นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี และผู้ต้องหาคดียิง สจ.โต้ง ตามยุทธการทลายรังนักเลง
รวม 5 จุด ใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอศรีมหาโพธิ 3 จุด อำเภอบ้านสร้าง 1 จุด และอำเภอประจันตคาม อีก 1 จุด ซึ่งเป้าหมายครั้งนี้นอกจากตะเป็นคนสนิทแล้ว ยังเป็นฐานเสียงสำคัญทางการเมืองของนายสุนทร ตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วย
จุดใหญ่อยู่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ ซึ่งเป็นบ้านสวน เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ พบปืน 2 กระบอก พร้อมกระสุน แต่เป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง ตำรวจจึงยึดไปตรวจสอบ แต่ไม่พบตัวผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าของบ้าน คนงานบอกว่า ไปทำธุระที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 3 วันที่แล้ว
เช่นเดียวกับอีก 4 จุด บางหลังก็ไม่พบบุคคลเป้าหมายเช่นกัน ซึ่งการตรวจค้นวันนี้ เพื่อกวาดล้างอิทธิพลเครือข่ายชนายสุนทร วิลาวัลย์ หลังเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง เสียชีวิตในบ้านพักนายสุนทร เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา
นายพงศกร พงษ์คุณ เลขาฯ ส่วนตัวของนายสุนทร ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกค้นบ้านยืนยันว่าตนไม่เคยมีอิทธิพล เพราะไม่เคยทำผิดกฎหมาย ส่วนผู้ใหญ่แอ๊ด ก็รู้จักปกติ เนื่องจากเป็นนักการเมืองท้องถิ่น แต่ไม่เคยทำธุรกิจด้วยกัน เช่นเดียวกับนายโจ้ ก็รู้จักในฐานะเพื่อนจังหวัดเดียวกัน เพียงแต่ไม่สนิท ส่วนเต็งหนึ่ง ไม่รู้จักกันเลย
เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังใหม่ ต้องกักตัว 5 วัน และต้องตรวจสุขภาพว่ามีโรคประจำตัว หรือโรคติดต่อหรือไม่ หลังจากนั้นจึงจะให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ ทั้งระบบออนไลน์ และระบบปกติ
ส่วนการสวดศพ สจ.โต้ง คืนที่ 3 ที่วัดวัดมะกอกสีมาราม อำเภอเมืองปราจีนบุรี ก็มีกลุ่มเพื่อนวงการมวย และนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ มาแสดงความอาลัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกับ สจ.โต้ง และบอกว่า ปรึกษากันทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องการสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่จะให้ สจ.จอย ภรรยา สจ.โต้ง ลงสมัคร และเชื่อว่าน่าจะมีคนมายุยงให้ขัดแย้งกัน เพื่อจะได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทีมข่าว 7HD ได้คุยกับแหล่งข่าว กองบังคับการปราบปราม ตอนนี้มั่นใจ 100% ว่าคดีนี้มีแรงจูงใจจากปมการเมืองท้องถิ่น ไม่ผิดแน่ ๆ เพราะพยานหลักฐานที่รวบรวมได้จนถึงตอนนี้ สามารถหักล้างคำให้การของผู้ต้องหาฝั่ง "โกทร" ได้ทั้งหมด ยืนยันว่าไม่หนักใจเรื่องการดำเนินคดี เพียงแต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เรียบร้อย
ส่วนเรื่องการโอนสำนวนคดีมาไว้ที่กองปราบฯ ตอนนี้ทำเรื่องเสนอไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ไม่วันจันทร์ก็อังคารนี้ ถ้า ผบ.ตร. เห็นด้วย เซ็นคำสั่งเมื่อไร ก็จะเริ่มเอาพยานหลักฐานเชิงลึก ออกมาสอบสวนผู้ต้องหา และพยานปากต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทันที
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตำรวจในพื้นที่ไม่ได้ทำงานบกพร่อง เพียงแต่ในด้านเทคนิก และเครื่องมือพิเศษ มีจำกัด จึงทำคดีได้เท่าที่มีศักยภาพ ส่วนเรื่องการแทรกแซง หรือแรงกดดันทางคดี ยังไม่ถือว่ามีการแทรกแซง เพราะคดีนี้เป็นคดีใหญ่ ที่สังคมยังจับตามองอยู่
สอบถามกับ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ว่าคืนที่ 2 ของ "โกทร" กับพวกเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าทั้ง 7 คน ปรับตัวได้แล้ว สุขภาพแข็งแรง นอนหลับ กินอาหารครบยังไม่มีใครขอยารักษาโรค
หากครบกำหนดกักตัวเฝ้าระวังโควิดรอบ 5 วัน "โกทร" อาจถูกนำตัวไปอยู่สถานพยาบาลของเรือนจำจังหวัดนครนายก เพื่อสะดวกต่อการดูแล เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ลุกเดินลำบาก และมีโรคประจำตัวที่ต้องดูแล ยังไม่ถึงขั้นมีอาการบ่งชี้ว่าต้องย้ายไปรักษาตัวนอกเรือนจำแต่อย่างใด