ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด (ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด) พร้อม นายพิชัยยา ตุระซอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุและสอบปากคำ นายธนวัฒน์ อายุ 25 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ พร้อมพวกรวม 5 คน หลังจากกลางดึกวันที่ 13 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ร้อยเอ็ด สกัดจับกุมได้ที่ริมถนนริมพนังชี บ้านท่าสะแบง ต.มะบ้า อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด ขณะที่ผู้ต้องหาขับรถยนต์เก๋ง สีขาว ทะเบียน กล 373 อุดรธานี ขนยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ดไปส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของพ่อค้าชาวลาว ที่ จ.อ่างทอง และ จ.ศรีสะเกษ
พ.ต.อ.ณปภัช สงเคราะห์ ผกก.สส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้รับจ้างลำเลียงยาบ้าจากเจ้าของยาบ้าชาวลาว เพื่อนำยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้าใน จ.ศรีสะเกษ และ จ.อ่างทอง เพื่อเป็นจุดพักยา ก่อนจะกระจายให้ลูกร้ารายย่อยต่อไป โดยชุดสืบสวนสืบทราบว่า มีกลุ่มวัยรุ่น ชาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ไปรับยาบ้าจากตะเข็บชายแดน สปป.ลาว ในพื้นที่ ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จากนั้นจะนำยาบ้าบรรทุกใส่ท้ายรถยนต์เก๋งที่สวมทะเบียนปลอม ขับมาตามเส้นทาง อ.เต่างอย จ.สกลนคร เข้ามา อ.เขาวง และ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ แล้วผ่าน อ.โพนทอง อ.เสลภูมิ และ อ.เมืองร้อยเอ็ด
จากนั้นชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ร้อยเอ็ด จึงวางกำลังดักตามเส้นทางระหว่าง อ.เสลภูมิ กับ อ.โพนทอง กระทั่งพบรถยนต์เก๋งเป้าหมายขับเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ไปอย่างกระชั้นชิด เมื่อผู้ต้องหารู้ตัวว่ามีรถไล่ติดตามจึงขับหนีด้วยความรวดเร็ว มุ่งหน้าเข้าเขต อ.ทุ่งเขาหลวง ก่อนที่ผู้ต้องหาขับเสียหลัก ทำให้รถแฉลบลงข้างทาง จากนั้นผู้ต้องหาได้จอดรถทิ้งไว้พร้อมกับวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่กวดและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 5 คน รวมระยะทางที่ไล่ล่ากว่า 30 กิโลเมตร
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้าชาวลาว โดยจะได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าจ้างจำนวน 50,000 บาท จากค่าจ้างทั้งหมด 200,000 บาท ซึ่งเที่ยวนี้ตนและกลุ่มเครือข่ายไปรับยาบ้ามา 2 ล้านเม็ด โดยได้แยกเส้นทางลำเลียง ซึ่งยาบ้าอีก 1 ล้านเม็ดที่เหลือ ถูกลำเลียงไปทาง จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำกระจายไปให้ลูกค้าใน จ.ศรีสะเกษ สำหรับยาบ้าที่ตนบรรทุกมาจะมีปลายทางอยู่ที่ จ.อ่างทอง และกรุงเทพมหานคร โดยที่ผ่านมาตนรับจ้างทำหน้าที่ลำเลียงยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้า หรือที่เรียกว่า นักบิน มาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะสลับรถขนส่ง และสวมป้ายทะเบียนปลอม เพื่อหลีกเหลี่ยงการจับกุม