ชะลอหลักเกณฑ์เบิกจ่ายมะเร็งรักษาทุกที่ หาทางออกภายใน 3 เดือน

ชะลอหลักเกณฑ์เบิกจ่ายมะเร็งรักษาทุกที่ หาทางออกภายใน 3 เดือน

View icon 65
วันที่ 16 ธ.ค. 2567 | 15.31 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สปสช. ชะลอบังคับใช้ประกาศมะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ ตั้งคณะทำงานร่วมหาทางออกภายใน 3 เดือน ระหว่างนี้ผู้ป่วยรับบริการเหมือนเดิม ไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว

วันนี้ (16 ธ.ค.67) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่า สปสช.ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere) ฉบับใหม่ โดยเน้นไปที่การให้การรักษามะเร็งโดยตรง ได้แก่ รังสีรักษา เคมีบำบัด ผ่าตัด และฮอร์โมน และเกิดเป็นข่าวว่า สปสช. ยกเลิก โครงการ “มะเร็งรักษาทุกที่” นั้น สปสช.ขอยืนยันว่าโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ รวมถึงภาวะแทรกซ้อนและโรคร่วมโรคแทรก ยังมีอยู่ ไม่ได้มีการยกเลิกแต่อย่างใด โดยผู้ป่วยไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.67 สปสช. ได้หารือร่วมกับผู้บริหารโรงเรียนแพทย์ ได้แก่ รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาภรณ์ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น และมีข้อสรุปร่วมกัน 3 ข้อดังนี้

1. สปสช.จะผ่อนผันการบังคับใช้ประกาศมะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ออกไปก่อนเป็นระยะเวลา 3 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงวันที่ 31 มี.ค.68

2. ระหว่าง 3 เดือนนี้ ผู้ป่วยมะเร็งยังคงใช้บริการตามแนวทางมะเร็งรักษาทุกที่ หรือ Cancer Anywhere เหมือนเดิม โดยผู้ป่วยรายเดิมยังคงเป็น Cancer Anywhere ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวเพื่อประกอบการเบิกจ่ายงบประมาณ สปสช.จะจัดสรรงบให้หน่วยบริการโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ส่วนผู้ป่วยที่ทาง รพ.รับส่งต่อต้องการดูข้อมูลผู้ป่วยสามารถดูผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์ และ Health Link ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อและดูข้อมูลผู้ป่วย ขณะที่หน่วยบริการใช้ระบบการเบิกจ่ายเหมือนเดิม

3. ภายใน 3 เดือนนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อหารือร่วมกันโดยยึดหลักการผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ซึ่งที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะทำงานร่วมโดยมอบให้ นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เป็นประธาน ในการหาข้อสรุปประเด็นปัญหาการดำเนินงานโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere) ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และวางแผนเสนอการทำโครงการนี้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและหน่วยบริการในอนาคต ทั้งในประเด็น การบริการ ยาที่ใช้ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ งบประมาณ ภาระงานที่เกิดขึ้น รวมถึงการเบิกจ่ายต่างๆ โดยจะมีการสรุปและทำข้อเสนอซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 15 ม.ค.68

ข่าวที่เกี่ยวข้อง