พ่อเลี้ยงเดี่ยวร้อง เสียลูกชายที่เลี้ยงมาคนเดียว

View icon 124
วันที่ 17 ธ.ค. 2567 | 11.34 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - พ่อเลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับมา แต่ ๆ จู่ ๆ แม่เด็กที่เลิกรากันไปนานกว่า 19 ปี กลับมาขอใช้สิทธิรับเงินค่าสินไหมทดแทนไป 2 ล้านบาท

เพจ "เจ๊ม้อย v+" นำเรื่องราวของพ่อเลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งใน จังหวัดราชบุรี มาโพสต์ร้องขอความธรรม หลังต้องสูญเสียลูกชายอายุ 19 ปี จากอุบัติเหตุรถชน แต่พอจะได้เงินค่าสินไหมทดแทน จู่ ๆ ผู้เป็นแม่ที่ทิ้งลูกชายไปตั้งแต่อายุ 3 เดือน งานศพลูกก็ไม่มา แต่ส่งทนายดำเนินเรื่องรับเงินค่าสินไหม 2 ล้านบาท ตามสิทธิผู้เป็นแม่

ทีมข่าว 7HD สอบถามไปยัง นายเกรียง อายุ 46 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนอยู่กินกับฝ่ายหญิง และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร ตอนลูกชายอายุได้ 3 เดือน ฝ่ายหญิงก็มาเลิกรา ไปมีครอบครัวใหม่ อยู่ที่ประเทศเกาหลี และไม่เคยติดต่อกลับมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของลูกอีกเลย ตนก็ทำหน้าที่เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวมาโดยตลอด และไม่เคยเรียกร้องอะไรจากฝ่ายหญิง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ลูกชายได้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะต้องใช้เอกสารของผู้เป็นแม่มาใช้ประกอบการขอรับเงินค่าสินไหมทดแทน แต่ตนก็ไม่รู้จะติดต่อยังไง จนกระทั่งน้องสาวไปเจอบัญชี TikTok ของฝ่ายหญิง จึงส่งข้อความไปบอกข่าว และขอเอกสารส่วนตัว แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธอ้างว่าไม่สะดวก แต่กลับส่งทนายความมาใช้สิทธิความเป็นแม่ เพื่อรับเงินค่าสินไหมทดแทน เรียกเพิ่มเป็น 2 ล้านบาท ซึ่งตนมองว่าการที่ฝ่ายหญิงทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควร แม้ตนจะไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร แต่ก็เป็นคนเลี้ยงดูลูกชายมาด้วยน้ำพักน้ำแรงเพียงคนเดียวตลอด 19 ปี โดยที่ฝ่ายหญิงไม่เคยหันมาเหลียวแลแม้แต่ครั้งเดียว ก็ไม่ควรที่จะได้รับเงินส่วนนี้

เบื้องต้นได้ปรึกษาทนายความ เรื่องการทำหนังสือยื่นต่อศาล แสดงความเป็นบิดาโดยเห็นชอบด้วยกฎหมายอย่างถูกต้องแล้ว

เรื่องนี้ทีมข่าวสอบถามไปยัง นางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ให้ความเห็นว่าฝ่ายชายมีสิทธิที่จะได้รับเงินในส่วนนี้เช่นกัน แต่ติดตรงที่เคสนี้ฝ่ายชายไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตรตั้งแต่แรก ซึ่งจะต้องทำหนังสือยื่นคำร้องต่อศาลรับรองการเป็นบิดาโดยเห็นชอบด้วยกฎหมายก่อน ซึ่งระหว่างนี้ก็จะต้องให้โรงพยาบาลทำการคัดค้านไปก่อนที่ฝ่ายหญิงจะมานำเงินส่วนนี้ไป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องรอทางผู้เป็นแม่ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง