ตร.ไซเบอร์ ค้น 7 จุด ทั่วกรุงเทพฯ – ปริมณฑล เครือข่ายรับฟอกเงินให้เว็บไซต์พนันออนไลน์ พบพฤติกรรมแต่งงานกับหญิงไทย เปิดบริษัทให้ถือหุ้น 51% เงินหมุนเวียนหลักพันล้าน
วันนี้ (17 ธ.ค.67) พล.ต.ท. ธัชชัช ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมตำรวจไซเบอร์กว่า 20 นาย เข้าตรวจค้นบ้านหรูย่านราชพฤกษ์ พบผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน โยสามีเป็นชาวมาเลเซีย เชื้อสายจีน ส่วนภรรยาเป็นหญิงชาวไทย
พล.ต.ท. ธัชชัช เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นบริษัทอำพราง จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทถูกต้อง แต่ทำธุรกิจหลายอย่างเพื่ออำพรางซ่อนเร้น ล่าสุด เปิดบ่อตกกุ้ง ย่านลาดพร้าว แต่ในข้อเท็จจริงใช้บริษัทฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ และเชื่อมโยงไปยังบริษัทต่าง ๆ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก หลังจากนี้จะขยายผลและออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก คดีนี้น่าสนใจ เพราะเป็นคนต่างชาติมาแต่งงานกับคนไทย เพื่อได้สิทธิ์ในการถือครองหุ้นในบริษัท และใช้ในการกระทำความผิด
พล.ต.ท. ไตรรงค์ เปิดเผยว่า คดีนี้จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหารับจ้างฟอกเงินให้กับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยเปิดกิจการหลายอย่างเพื่อบังหน้าฟอกเงิน เช่น สถานบันเทิง ย่านเอกมัย สถานบันเทิง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ร้านอาหารทะเล ย่านลาดพร้าว และบริษัทอื่น ๆ รวมกว่า 10 บริษัท ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บางบริษัทที่จดแจ้ง ไม่ได้ประกอบการจริง กรรมการบริษัทก็เป็นนอมินีทั้งสิ้น
“กลุ่มผู้ต้องหา โอนเงินกันไปมา ทำหน้าที่เหมือนเป็น payment gateway เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,000 ล้านบาท เชื่อว่าขบวนการนี้รับฟอกเงินให้กับขบวนการอื่น ๆ ที่กระทำผิดกฎหมายหลายอย่าง ทั้งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเว็บไซต์พนันออนไลน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและขยายผลในเรื่องของเส้นทางการเงิน”
จากการซักถามภรรยาชาวไทย บอกว่า สามีชาวมาเลเซีย มาแต่งงานกับหญิงไทย ได้จัดตั้งบริษัทโดยให้ภรรยาเป็นนอมินี และแบ่งหุ้นส่วนให้ 51% สามีให้เงินเดือนหลักแสนบาทต่อเดือน โดยไม่รู้ว่าบริษัทที่สามีเปิดทำธุรกิจอะไรบ้าง รู้ว่าถูกออกหมายจับ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีรับฟอกเงินให้กับเว็บไซต์พนันออนไลน์
ปฏิบัติการครั้งนี้ ยึดทรัพย์สินได้เป็นกระเป๋าแบรนด์เนม สินค้าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู เงินสด 4 ล้านบาท และพระเครื่อง จำนวนหนึ่ง