ข่าวเย็นประเด็นร้อน - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไม่กังวลกรณี ป.ป.ช.ตั้งคณะไต่สวน ปม “ทักษิณ” ป่วยนอนชั้น 14 ยืนยันเป็นผลดีต่อคนในสังคม ที่จะได้ทราบข้อเท็จจริง
ตั้งสอบ 12 ขรก. ปม ทักษิณ รักษาตัวชั้น 14
เป็นประเด็นร้อนๆ เมื่อวานนี้ หลังจากนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงมติที่ประชุม กรณีกล่าวหานายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประเด็นส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยมิชอบ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานเบื้องต้นเห็นว่า มีข้อเท็จจริงและหลักฐานเพียงพอ จึงมีมติรับเรื่องไว้พิจารณา และไต่สวนข้อเท็จจริง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ เป็นองค์คณะไต่สวน ที่จะมีการไต่สวนเจ้าหน้าที่สังกัดกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 12 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อทั้ง 12 คน เป็นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ อาทิ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุธีวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งเป็นนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และ พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นต้น
ไต่สวนปม ทักษิณ ป่วย เป็นเรื่องดี
ขณะที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นข้าราชการทั้ง 12 คน ที่ถูกตรวจสอบ เพราะมีหลักฐานยืนยันว่า ข้าราชการเหล่านี้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช. ถือเป็นเรื่องดี เพราะประชาชนให้ความสนใจ และให้บุคคลที่ไม่เคยถูกไต่สวน ได้มอบข้อมูลและหลักฐาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีข้อกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย
ส่วนตัวไม่กังวลว่า การไต่สวนเรื่องนี้ จะทำให้ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม เพราะยึดมั่นในข้อเท็จจริง และกฎหมาย
มองปม ทักษิณ ทำลายรัฐบาลเพื่อไทย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นว่า ถ้า ป.ป.ช.เป็นองค์คณะไต่สวน หวังว่าเรื่องนี้จะมีคำตอบโดยเร็ว ประเด็นนี้ หากจับอากัปกิริยา และให้ความร่วมมือของหน่วยงานรัฐ ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ปกติแน่ ๆ มีบางอย่างที่ถูกปิดซ่อนอยู่
ส่วนประเด็นที่ต้องวินิจฉัย คือ 1.นายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ 2.ที่ถูกส่งไปรักษาตัวโรงพยาบาลกระบวนการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 3.อยู่โรงพยาบาลครบ 180 วัน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 4.เมื่ออยู่จนครบ ได้รับการพักโทษ เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีที่ ป.ป.ช.จะกลายเป็นชนักติดหลัง เพื่อถือไพ่ทางการเมืองหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจว่า ใครมีอำนาจบ้าง พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แต่เรื่องความไม่สง่างามกรณีนายทักษิณ ได้ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลแล้ว และตอนนี้เหมือนนายทักษิณ ได้แย่งคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ แล้ว
หวังปมสอบ ทักษิณ สะเทือน ยิ่งลักษณ์
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กบางช่วงว่า ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในที่สุดเราก็เดินมาถึงครึ่งทาง ต้องขอบคุณเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน รวมทั้งกองทัพธรรม เมื่อ ป.ป.ช.รับไต่สวนแล้ว ก็จะไม่แสดงความเห็นอะไรมาก เพียงแต่คาดว่า ตรุษจีนปีหน้า หรือสงกรานต์ปีหน้า คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงต้องเลื่อนกลับประเทศไทย
ยก ทักษิณ บุคคลระดับโลก
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่าง นางสาวแพทองธาร นายกฯ เดินทางเยือนประเทศมาเลเซีย เมื่อวานนี้ ซึ่งเว็บไซต์ข่าวเบอร์นามา ของมาเลเซีย รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ทาบทามนายทักษิณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัว เพื่อนำประสบการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ มาช่วยเหลือมาเลเซีย ที่จะรับตำแหน่งประธานกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า
เรื่องนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มองว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายกฯ อันวาร์ และเป็นเรื่องส่วนตัวนายทักษิณ เช่นกัน เพราะนายทักษิณ เป็นบุคคลสำคัญระดับโลก ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของนายอันวาร์ เท่านั้น แต่เป็นที่ปรึกษาอีกหลายประเทศ เนื่องจากประสบการณ์ความสามารถที่แก้ไขปัญหาให้ประเทศไทย จนบรรลุผล และต่างประเทศยอมรับ
ส่วนรัฐบาลไทยเห็นว่า การที่นายทักษิณ เป็นคนไทยรักชาติ เมื่อเป็นที่ปรึกษาดังกล่าว อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาระหว่าง 2 ประเทศ จึงคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ส่วนจะมากหรือน้อย ยังตอบเรื่องในอนาคตไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลไทยจะให้นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาบ้างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณเป็นคนที่แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะมากอยู่แล้ว การจะเป็นที่ปรึกษา ทำได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของกฎหมาย หากกฎหมายให้เป็นที่ปรึกษาได้ เราก็อยากรับฟังอยู่แล้ว เพราะท่านมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา แต่เวลานี้มีดรามาเรื่องครอบงำเยอะ แม้ยังไม่ทันทำอะไร จึงต้องดูให้ดี
คาดปล่อย 4 ประมงคนไทยต้นปีหน้า
ส่วนกรณีทางการเมียนมา คุมตัวลูกเรือประมงไทย 4 คน โดยกล่าวหาว่ารุกล้ำน่านน้ำ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ ศาลประเทศเมียนมา ตั้งข้อหาลูกเรือประมงไทย 2 ข้อหา คือ การทำประมงผิดกฎหมาย และลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยไต้ก๋งถูกพิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับเงิน 200,000 จัต ลูกเรือประมงถูกพิพากษาจำคุก 3 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 จัตนั้น
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน ได้รับโทษต่ำที่สุดแล้ว และจากการประสานงานเบื้องต้นคาดว่าวันที่ 4 ม.ค.2568 ซึ่งเป็นวันชาติของเมียนมา จะปล่อยตัวทั้ง 4 คน ส่วนข้อกล่าวหารุกล้ำน่านน้ำ ทุกอย่างว่าไปตามข้อเท็จจริง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากคนไทยอยู่ในมือของเมียนมา ดังนั้นประเด็นสำคัญ คือ ต้องการเอาคนไทยออกมาก่อน ถ้าพูดอะไรมากไปกว่านี้ อาจมีผลต่อการส่งตัวกลับมา แต่หากกลับมาเรียบร้อยแล้ว ความชัดเจนจะเป็นอย่างไร ก็ค่อยว่ากันอีกที
แย้มแจกเงิน 1 หมื่นบาท เข้า ครม.สัปดาห์หน้า
แต่ที่มาจริงๆ ไม่มีปั้นข่าว คงเป็นนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 โดยวันนี้ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า การแจกเงินเฟส 2 ให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า (24 ธ.ค.) ขณะนี้ติดขั้นตอนรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการดำเนินงานแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 เรื่องนี้ต้องรอกระบวนการ ต้องค่อยเป็นค่อยไป เมื่อตอนเฟส 1 ก็ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดี และเฟส 2 มีแนวโน้มจะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การจ่ายเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ยังคงเป็นไปตามกรอบเวลา ทันสิ้นเดือน ม.ค.นี้ ส่วนระบบเฟส 3 ที่จะมารองรับการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่า จะทดสอบระบบได้ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.2568 สำหรับแหล่งเงินที่จะใช้ในเฟส 3 อยู่ในงบกลางกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะใช้เม็ดเงินจากแหล่งเงินอื่น ๆ หรือไม่ ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้ง