เช้านี้ที่หมอชิต - อากาศหนาวเย็นแห้งแล้ง ที่มักมาคู่กับปัญหาฝุ่น PM2.5 จนต้องรณรงค์สารพัดวิธี ให้ช่วยกันลดปริมาณฝุ่นพิษ ทั้งการหยุดเผาไร่อ้อย หรือแม้แต่ตอซังฟางข้าว แต่จริง ๆ แล้วก็ยังมีอีกปัญหาที่เรากำลังจะพาไปดูก็สร้างมลพิษ เพิ่มปริมาณสะสมของฝุ่นละอองในอากาศมากขึ้นเช่นกัน
เดือดร้อน ท่าข้าวทำฝุ่นฟุ้งกระจาย
รถตักข้าวเปลือกใส่บุ้งกี๋ ยกขึ้นแล้วเขย่าร่อนข้าวเปลือกลงมา ตั้งแต่ช่วงกลางวันไปจนค่ำมืดแบบนี้ ฝุ่นละอองก็ลอยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณอย่างที่เห็น ทำเอาชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลโพงาม อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ได้รับความเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน ทั้งจากเสียงดังของเครื่องจักรที่ทำงาน แล้วก็ยังหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าปอดสะสมมานานนับปี
ชาวบ้าน บอกว่า เคยร้องเรียนเทศบาลตำบลโพงาม และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสรรคบุรี ให้ช่วยเหลือแล้ว ก็มีการเข้าตรวจสอบ และสั่งผู้ประกอบการหยุดกิจการชั่วคราว พร้อมแก้ไขปรับปรุง แต่ผู้ประกอบการก็ยังเพิกเฉย ตักโกยข้าวเปลือกอย่างนี้เกือบทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ จนเกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และดวงตา
ชาวบ้าน ยังเล่าว่า วิธีรับมือเฉพาะหน้าที่ทำได้ตอนนี้คือการใช้ผ้า มาปิดประตู-หน้าต่าง และติดตั้งอุปกรณ์ทำสเปรย์พ่นละอองน้ำ เพื่อช่วยดักจับฝุ่นละอองที่ลอยเข้าบ้านให้ลดน้อยลง และยังไม่รู้ว่าจะต้องอยู่กับฝุ่นไปอีกนานเท่าไหร่
รองนายกเทศมนตรีตำบลโพงาม บอกว่า มีบ้านเรือนในรัศมี 200 เมตร ได้รับผลกระทบดังกล่าวแล้ว 11 หลัง รวม 34 คน จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สรรคบุรี เพื่อเอาผิดกับผู้ประกอบการฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างออกหมายเรียกผู้ประกอบการ มาให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา
ลอบเผาตอซังข้าว ทำค่าฝุ่นสะสมเพิ่มขึ้น
ที่จังหวัดนครราชสีมา อีกสถานที่น่ากังวล เพราะช่วงนี้จะเริ่มเห็นการลักลอบเผาตอซังข้าว และเศษซากพืชผลทางการเกษตร หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จ ในพื้นที่ตำบลกระเบื้องใหญ่ อำเภอพิมาย จนทำให้เกิดกลุ่มควันไฟจำนวนมากลอยขึ้นปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง กระทบสุขภาพประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งเพลิงก็ยังลุกลามไหม้เศษฟางข้าวกินพื้นที่นับร้อยไร่ จนปกคลุมผิวจราจรบางช่วง ทำให้สัญจรลำบาก เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนด้วย ก็ต้องขอความร่วมมืองดเผาทุกกรณี เพื่อตัดวงจรเกิดฝุ่นพิษ PM2.5 ให้ลดลง
